วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

ประวัติความเป็นมาของพิธีลอยกระทง...อธิษฐานอย่างไรให้สมปรารถนา ?





กระทงธรรม 7 สีลอยเพื่อเป็นพุทธมารดา

กระแสโซเชียลวัฒนธรรมอันดีงามของการลอยกระทงเพิ่งผ่านไป ซึ่งปีนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 วันลอยกระทงเป็นประเพณีอันดีงาม ที่เราคนไทยที่นับถือพระพุทธศาสนามีความภาคภูมิใจและปฏิบัติสืบทอดต่อๆกันมาแต่สมัยพุทธกาลทีเดียว  กิจกรรมลอยกระทงเป็นกิจกรรมที่ให้ทั้งบุญกุศล ความสนุกสนานความสามัคคี   ของหมู่พี่น้องคนไทยที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาเป็นเวลานาน

วันนี้จะขอนำเกร็ดความรู้สาระสำคัญเกี่ยวกับประวัติของการเกิดประเพณีลอยกระทงว่ามีความเป็นมาอย่างไรให้ทราบ  เรามาศึกษากันดูได้เลย

ในยุคสมัยนี้ หลายคนคิดว่า การลอยกระทงเป็นประเพณีที่จัดขึ้นเพื่อความบันเทิงหรือเป็นงานรื่นเริงประจำปีแค่นั้น แต่แท้จริงแล้ว...การลอยกระทงมีตำนานความเชื่อมากมาย ซึ่งถ้านับเฉพาะความเชื่อในทางพระพุทธศาสนา

พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์หลังโปรดพุทธมารดา

การลอยกระทงนั้น ก็เป็นไปเพื่อการบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือบูชาพระรัตนตรัยเท่านั้น เพราะชาวพุทธเชื่อว่า การลอยกระทงเกิดขึ้นจาก การลอยเพื่อต้อนรับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในครั้งที่พระพุทธองค์เสด็จกลับจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ หลังเสร็จจากการจำพรรษาโปรดพระพุทธมารดา
ซึ่งขณะที่พระองค์เสด็จลงมา ทั้งเหล่าทวยเทพเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายได้ทำการสักการบูชาพระพุทธองค์ด้วยทิพยบุปผา มาลัย ลอยกระทงดอกไม้ เพื่อน้อมบูชาด้วยจิตเลื่อมใส
นอกเหนือจากนี้ ยังพบข้อมูลอีกว่า การลอยกระทงได้เกิดขึ้นอีกในครั้งที่พระพุทธองค์เสด็จไปยังฝั่งแม่น้ำนัมมทา เพื่อลงไปเทศน์โปรด พญานาคนัมมทา และเหล่าบริวารยังนาคพิภพ ซึ่งก่อนพระพุทธองค์จะเสด็จกลับ พญานาคทูลอ้อนวอนให้พระพุทธองค์ประทานสิ่งที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจไว้ให้


ด้วยเหตุนี้ ทำให้พระพุทธองค์ทรงอธิษฐานจิตแล้วประทับรอยพระบาทไว้ ณ ริมฝั่งแม่น้ำนัมมทา ให้ตั้งอยู่นานตลอดหนึ่งกัป
นับจากนั้น ทั้งเหล่านาค ครุฑ และมหาชนทั้งหลาย เมื่อเห็นรอยพระพุทธบาทที่ลุ่มน้ำนัมมทา ต่างเกิดจิตเลื่อมใส พากันมาสักการบูชาด้วยประทีปบ้าง ด้วยมาลัยดอกไม้บ้าง ด้วยการลอยกระทงดอกไม้บ้าง
ที่สำคัญ ยังพบข้อมูลอีกว่า การลอยกระทงยังเป็นการลอยเพื่อบูชาสักการะพระมหาจุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์อีกด้วย
แต่ที่น่าสนใจมากไปกว่านั้น ได้พบข้อมูลเพิ่มว่า การลอยกระทงยังใช้ในการสักการบูชาพระสงฆ์ได้อีกด้วย เพราะในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ได้มีการลอยกระทงบูชาพระอุปคุต พระอรหันต์ผู้จำพรรษาอยู่ในสะดือทะเล
ฉะนั้น ในวันลอยกระทงของทุกปี ในฐานะที่เราเป็นพุทธศาสนิกชน  ในฐานะที่เราเป็นพุทธศาสนิกชน ก็ควรชำระกาย วาจา ใจ ให้สะอาดบริสุทธิ์ โดยนึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นึกถึงคุณของพระรัตนตรัย แล้วมาลอยกระทงเพื่อบูชาพระพุทธองค์ด้วยจิตที่เลื่อมใสกัน

อธิษฐานจิตร่วมกันก่อนลอยกระทงลงน้ำ

5 เคล็ดลับการลอยกระทงให้สิ่งที่อธิษฐานสมปรารถนา
1.ตื่นเช้าขึ้นมาให้อาราธนาศีล ๕ หรือศีล ๘ และรักษาศีล เพื่อให้เราเป็นผู้มีความบริสุทธิ์ในการรองรับบุญใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้น
2.เตรียมกระทงสวย ๆ ซึ่งจะซื้อหรือทำเองก็ได้ แต่ถ้าทำเอง ก็ต้องทำด้วยความละเอียดประณีต ทำด้วยจิตเลื่อมใส มีปีติ เบิกบาน ทำด้วยความตั้งใจที่จะน้อมนำกระทงนี้บูชาพระรัตนตรัยซึ่งเป็นที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุด

สาธุชนร่วมลอยกระทง ณ สระเศรษฐีทะเลบุญ วัดพระธรรมกาย

3.ก่อนจะลอยให้เราทำใจใส ๆ วางใจเบา ๆ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 จุดธูปเทียนในกระทง แล้วยกกระทงขึ้นจบ น้อมระลึกนึกถึงคุณอันไม่มีประมาณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ และน้อมนึกถึงคุณของพระสงฆ์ที่เราเคารพศรัทธา เช่น พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) จากนั้นก็น้อมนึกบูชาท่านด้วยกระทงนี้ แล้วลอยกระทงลงในน้ำ
4.จากนั้นก็ให้เราตั้งจิตอธิษฐานในสิ่งที่เราปรารถนา เช่น ด้วยบุญจากการบูชาสักการะในครั้งนี้ ข้าพเจ้าขอตั้งจิตอธิษฐานว่า ให้หมดกิเลสอาสวะได้โดยง่ายมีดวงตาเห็นธรรม ให้แข็งแรง ร่ำรวย มีชีวิตที่เจริญรุ่งเรือง และสมปรารถนาในสิ่งที่ตั้งใจไว้ชอบแล้วในทุกประการเทอญ ฯลฯ
5.ก่อนนอนคืนนั้น ให้เราตามตรึกระลึกนึกถึงบุญที่ได้ลอยกระทงบูชาพระรัตนตรัยและอุทิศส่วนกุศล แผ่เมตตาให้แก่บรรพบุรุษ บุพการี ญาติผู้ล่วงลับไปแล้ว ฯลฯ
หากเราได้ทำตาม 5 ขั้นตอนนี้ ก็เท่ากับเราได้เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมในเรื่องของการทำบุญครบทั้ง 3 วาระ คือ ก่อนทำ ขณะทำ และหลังทำ ซึ่งถ้าทำได้อย่างนี้บุญของเราจะไม่ตกไม่หล่น เกิดอานิสงส์แห่งการบูชาด้วยจิตเลื่อมใสอย่างเต็มที่ และจะดลบันดาลให้คำอธิษฐานของเราสำเร็จเป็นอัศจรรย์ได้โดยง่ายโดยเร็วพลันนั่นเอง...


วัดพระธรรมกายจัดให้มีพิธีลอยกระทงเป็นประจำทุกปี และได้จัดสถานที่ลอยกระทงให้เป็นสัดส่วนเพื่อแก้ปัญหาการเก็บทำลายขยะเศษซากอุปกรณ์ทำกระทงได้อย่างง่ายๆ และช่วยลดภาวะโลกร้อนด้วย

วันลอยกระทงเป็นวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม เป็นวันที่เราชาวพุทธทุกคนได้มีโอกาสพาครอบครัวถวายกระทงดอกไม้เพื่อบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อันจะเกิดบุญเกิดกุศลแก่ตนเองและครอบครัว ชีวิตเราและครอบครัวจะประสบแต่ความสุขความสำเร็จและความเจริญยิ่งๆขึ้นไป เราทุกคนควรช่วยกันส่งต่อให้ลูกหลานได้ช่วยกันธำรงรักษาสิ่งดีงามนี้ให้อยู่คู่โลกตราบนานเท่านาน ขอกราบอนุโมทนาบุญ สาธุค่ะ

กราบขอบพระคุณ :

2 ความคิดเห็น:

ประโยชน์ที่ได้รับ...จากการทำสมาธิ

    สมาธิก่อให้เกิดประโยชน์อย่างไรบ้าง บางคนหากไม่ได้สังเกตก็อาจไม่ทันรู้ตัวว่าความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับตัวเองนั้นเป็นผลมาจากสติปั...