วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

สร้างความสำเร็จและความสุขไปพร้อม ๆ กันต้องทำอย่างไร?




วันนี้ขอนำพระธรรมเทศนาของพระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณที่มีสาระและเนื้อหาที่มีประโยชน์และควรแก่การศึกษา ว่าเราจะสร้างความสำเร็จและความสุขไปพร้อมๆกันจะต้องทำอย่างไรมาให้ยอดกัลยาณมิตรทุกท่านได้ใช้เป็นแนวทางในการประกอบธุรกิจให้ประสบผลสำเร็จและมีความสุขควบคู่กันไปแบบง่ายๆ ว่าเราควรจะวางตัวและวางใจอย่างไร ติดตามอ่านได้เลยค่ะ


เส้นทางมุ่งไปสู่ความสุขและความสำเร็จ ข้อแรกคือ “ไม่โฟกัสที่เงินเพียงอย่างเดียว” จริงอยู่ว่าเงินสามารถแลกเปลี่ยนเป็นสิ่งของเพื่อยกระดับสภาพความเป็นอยู่ของเราได้ แต่ว่าทุกวันนี้มีคนจำนวนไม่น้อยที่มุ่งไปยังเรื่องของเงินเพียงอย่างเดียว จนอาจจะลืมไปว่ายังมีมุมอื่น ๆ ของชีวิตที่สร้างความสุขได้โดยไม่ต้องอาศัยอำนาจเงิน ทำให้เขาพลาดโอกาสสำคัญในชีวิตไป
สุขที่เกิดจากประสบผลสำเร็จในการประกอบธุรกิจ


เพราะฉะนั้น เราจึงควรทำงานและสร้างความสุขในชีวิตไปพร้อมกัน คือทำงานเพื่อให้ได้เงินมา แต่ก็อย่าลืมว่ายังมีความสำเร็จอย่างอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเงินอยู่ด้วย เช่น   “การเป็นผู้ให้” บางคนเลือกที่จะให้ความรู้แก่คนรอบข้าง บางคนเลือกที่จะเขียนหนังสือดี ๆ ขึ้นมาสักเล่มเพื่อแบ่งปัน ถ่ายทอดสิ่งที่ตนเองรู้ ส่งต่อไปยังผู้อื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนเป็นเงินทอง แต่เป็นความภาคภูมิใจและความสุขใจ เหล่านี้คือสิ่งที่ทำให้จิตใจชุ่มชื่นเบิกบานได้โดยที่ไม่ข้องเกี่ยวกับเงินทอง

วิธีการแสวงหาความสุขมีมากมาย เราไม่ควรผูกเงื่อนไขความสุขไว้กับสิ่งภายนอกตัว เพราะสิ่งเหล่านั้นเราควบคุมได้ยาก แต่ให้สร้างความสุขจากการฝึกใจของเราเอง ใจที่เป็นผู้ให้ มีเมตตากรุณาต่อผู้คนรอบตัว มีน้ำใจ มองโลกในแง่ดี มองคนในแง่บวก รู้จักฝึกใจให้สงบ รู้จักพอใจกับสิ่งที่ตัวมีตัวเป็น เป็นต้น

สุขที่เกิดจากใจที่จับแง่คิดดี


วิธีการต่อไปคือ “พัฒนาเพิ่มพูนทักษะให้ตนเอง” คนที่มีทักษะมากกว่าผู้อื่นย่อมมีโอกาสแสวงหาความสำเร็จได้ง่าย เพราะฉะนั้น ศาสตร์ความรู้ต่าง ๆ เมื่อเราศึกษาเรียนรู้แล้วนำมาผสมผสานกันจะทำให้เราทำงานได้ดียิ่งขึ้น

ความเป็นผู้มีใจพัฒนาแสวงหาเพิ่มเติมทักษะที่ดีให้แก่ตนเอง


นอกจากนี้ความรู้ทักษะต่าง ๆ ยังเพิ่มความมั่นใจให้กับเราได้  และยังเพิ่มความมั่นใจให้กับคนรอบข้างอีกด้วย ทำให้เกิดความก้าวหน้าในชีวิต เกิดความสุข เกิดจุดดีมีจุดแข็งหรือจุดเด่นในชีวิต เพราะฉะนั้น เราจึงหยุดเฉยอยู่กับที่ไม่ได้ ต้องพัฒนาตนเองด้วยการเพิ่มพูนความรู้และศักยภาพในตนเองให้มากขึ้นเสมอ

โลกปัจจุบันกำลังเปลี่ยนเป็นยุค 4.0 เข้าไปสู่ระบบอินเตอร์เน็ท


โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่โลกกำลังเปลี่ยนเป็นยุค 4.0 เข้าไปสู่ระบบ Internet of Things (lot) ถ้าเรามีความรู้ในสิ่งเหล่านี้ ก็จะมีโอกาสมากกว่าคนอื่น ได้เข้าไปมีส่วนในการตลาดแนวใหม่ เข้าถึงผู้บริโภคแนวใหม่ ที่สื่อแบบเก่าๆ ใช้ไม่ได้อีกต่อไป ซึ่งเป็นการพัฒนาทักษะที่เป็นประโยชน์ต่องาน ยิ่งเรามีทักษะที่ทำงานง่ายขึ้นมากเท่าไร ก็จะมีคนมาใช้สิ่งที่เราสร้างสรรค์มากขึ้นเท่านั้น และนั่นจะนำความสำเร็จมาสู่ตัวเรา

พัฒนาความสัมพันธ์และมิตรภาพที่ดีให้เกิดขึ้นอยู่เสมอ


ข้อต่อไปคือ “พัฒนาความสัมพันธ์และมิตรภาพที่ดีให้เกิดขึ้นอยู่เสมอ” บางคนจดจ่ออยู่แต่ความสำเร็จของตัวตน จนบางทีเผลอไปลดสัมพันธภาพกับผู้อื่น ทำให้ชีวิตโดดเดี่ยว ขาดความสุข เนื่องจากสัมพันธภาพที่ไม่ดีทั้งกับครอบครัวและผู้ร่วมงาน บางครั้งก็อาจสร้างศัตรูคู่แข่งในการทำงาน ที่เกิดจากการแข่งขันกันเพื่อความสำเร็จ

หากเรามุ่งมั่นกับความสำเร็จมากเกินไป จนละเลยผู้คนรอบตัว เราประสบความสำเร็จแล้ว กลับหาคนที่จะมาใส่ใจตัวเรามาร่วมยินดีกับเราด้วยแทบไม่ได้ ชีวิตคงจะโดดเดี่ยวไม่มีความสุขความสำเร็จที่ได้มาก็ไม่มีความหมายเท่าที่ควร

งานวิจัยของเด็กนร.ฮาร์วาร์ด 2 กลุ่ม ที่ใช้เวลายาวนานถึง 75 ปี


มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งของฮาร์วาร์ด (Harvard) ที่ใช้เวลายาวนานถึง 75 ปี เพื่อศึกษาดูว่าอะไรทำให้คนเรามีชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งเรื่องสุขภาพ การงาน และชีวิตส่วนตัว โดยแบ่งการติดตามผล
ออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือเด็กนักเรียนฮาร์วาร์ดที่อาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี มีการศึกษาดี มีฐานะครอบครัวดี กับกลุ่มที่สองเป็นคนที่ทำงานในเรือเดินทะเล ย้ายที่อยู่อาศัยไปเรื่อย ๆ ไม่มีหลักแหล่ง มีฐานะทางการเงินและการศึกษาด้อยกว่ากลุ่มแรกมาก

การวิจัยนี้ใช้เวลายาวนานถึง 75 ปี โดยติดตามชีวิตเด็กทั้งสองกลุ่มจนกระทั่งพวกเขามีอายุมาก ได้บทสรุปคือคนที่มีชีวิตดีมีสุขภาพดี มีจิตใจดีและมีชีวิตที่สงบสุข มีลักษณะตรงกันอย่างหนึ่ง คือมีความสัมพันธ์กับผู้คนรอบข้างที่ดี โดยแสดงให้เห็นว่าความสุขในชีวิตไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับฐานะทางเศรษฐกิจ ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องเดียว คือสัมพันธภาพที่ดีกับบุคคลรอบข้าง

รู้อย่างนี้แล้วเราควรหันกลับไปพัฒนาความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง โดยเฉพาะคนใกล้ตัวในครอบครัวของเรา เพราะพวกเขามีผลต่อความสุขของเรามากที่สุด

วิธีการต่อไปคือ “ค้นหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ด้วยการออกเดินทาง” เพราะการออกเดินทางเป็นการพาตนเองออกจากกิจวัตรเดิม ๆ ที่เราทำอยู่ ทำให้ความเครียดลดลงตั้งแต่เราก้าวเท้าออกจากบ้านเลยทีเดียว

การออกเดินทางท่องเที่ยวนั้นช่วยเพิ่มพูนสิ่งแปลกใหม่ให้แก่ชีวิต ทำให้เราได้พบปะผู้คนใหม่ ๆ ได้พบเห็นสถานที่ใหม่ ๆ และเจอกับสิ่งต่าง ๆ มากมายที่แตกต่างออกไป ได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้เปิดหูเปิดตา เปิดโลกทัศน์ แล้วสามารถนำไอเดียใหม่ ๆ กลับมาต่อ
ยอดในการทำงานได้อีกด้วย ทำให้เรามีทั้งความสุขและประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น เมื่อกลับมาแล้วเราก็จะมีพลังงานมากขึ้นโดยอัตโนมัติ เรียกว่าได้ทั้งกำลังใจและกำลังสติปัญญา  

นอกเหนือจากข้อที่กล่าวมาแล้ว ยังมีวิธีการที่จะทำให้เราทั้งมีความสุขและความสำเร็จได้รวดเร็วยิ่งขึ้นไปอีก นั่นคือการได้รับความสุขจากการส่งต่อความสุขให้ผู้อื่น เริ่มต้นจากเราต้องมีความสุขก่อน เราจึงสามารถส่งต่อความสุขนั้นไปให้ผู้อื่นได้ ซึ่งจะเป็นการการันตีได้ว่า “ตนเองต้องมีความสุข” ไม่อย่างนั้นเราจะเป็นคนที่ให้ความสุขแก่คนรอบข้างได้อย่างไร

วิธีการส่งต่อความสุขทำได้หลายทาง เช่น การบำเพ็ญประโยชน์ในที่ต่าง ๆ ไปเป็นวิทยากรให้ความรู้ จัดกิจกรรม หรือช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาส เป็นจิตอาสาพัฒนาสังคม หรือการให้คำแนะนำ การให้ความช่วยเหลือเพื่อนร่วมงาน รุ่นน้องในที่ทำงานสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนเป็นการส่งต่อความสุขทั้งนั้น

การส่งต่อความสุขด้วยการให้


การที่เราส่งต่อความสุขด้วยการให้ จะทำให้เรารู้สึกดี รู้สึกมีคุณค่าในตนเองว่าเราได้สร้างประโยชน์ให้กับผู้อื่น ยิ่งพอได้เห็นผู้รับมีความสุข ส่งรอยยิ้มส่งความสุขกลับมาให้เรา เราจะรู้สึกได้ถึงความอิ่มเอมภายในใจของเราเอง

ข้อต่อไปคือ “รู้จักการบริหารอารมณ์” ถ้าเราใช้สติปัญญาควบคุมอารมณ์ของตนเอง สามารถควบคุมการแสดงออกของตนเองได้ ในขณะเดียวกันก็พยายามเข้าใจในพฤติกรรมของผู้อื่น ทำให้สามารถอยู่ในสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ได้อย่างมีความสุข เพราะว่าเราไม่แสดงออกทางอารมณ์ที่เป็นไปในทางตำหนิผู้อื่น ในขณะเดียวกันถ้าผู้อื่นแสดงปฏิกิริยาทางอารมณ์ออกมา เราก็จะทำความเข้าใจได้นั่นเอง

การบริหารอารมย์ สุขหรือทุกข์ขึ้นอยู่กับสถานการณ์นั้น ๆ


สุขหรือทุกข์ความจริงไม่ได้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์นั้น ๆ เป็นหลัก แต่ขึ้นอยู่กับความคิดภายในใจเราต่างหาก ว่าเราจะตีความหรือรู้สึกกับสถานการณ์นั้น ๆ อย่างไร

ความสงบจิตสงบใจเรียกว่า "สุขใจ"


แม้เงินตราและความสำเร็จจะเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตเราสะดวกสบายขึ้น แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะทำให้เรามีความสุขเสมอไป เป้าหมายที่แท้จริงของชีวิตคนเรานั้นอยู่ที่ความสงบจิตสงบใจเรียกว่า “สุขใจ” มากกว่า ถ้าเราสามารถทำใจให้เป็นสุขแล้วความสำเร็จก็จะตามมาได้โดยง่าย
                                                                                                          

                                                                                   


กราบขอบพระคุณ :

พระธรรมเทศนาโดย พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ
หนังสือ PERFECTIONIST : เรื่องสุขจากการแสวงหา ความสำเร็จ หน้า 96-115 พร้อมภาพประกอบ

3 ความคิดเห็น:

ประโยชน์ที่ได้รับ...จากการทำสมาธิ

    สมาธิก่อให้เกิดประโยชน์อย่างไรบ้าง บางคนหากไม่ได้สังเกตก็อาจไม่ทันรู้ตัวว่าความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับตัวเองนั้นเป็นผลมาจากสติปั...