นายแม่เปลี่ยน ขันทอง(ประธานกฐิน)
เมื่อปี2559 หลังจากออกพรรษาได้ไม่กี่วัน ขณะที่ผมนั่งธรรมะอยู่ที่วัด มีสิ่งหนึ่งผุดขึ้นมาในใจผม นั่นก็คือ "เฮ้ย...ทำไมไม่ชวนแม่มาเป็นประธานกฐินล่ะ" มันทำให้ผมออกจากสมาธิ ขับรถกลับบ้าน ไปบอกนายแม่ว่า "แม่ๆ
ปีนี้แม่เป็นประธานกฐินมั้ย เอาวัดที่ร้างกฐิน ที่ยังไม่มีใครจองกฐิน
ผมว่าหาไม่ยากหรอกแถวภาคอีสาน เดี๋ยวลูกประสานงานถามน้องเจ้าหน้าที่ในวัดที่ดูแลภาคอีสานแถวโคราช ก็น่าจะมีนะนายแม่" นายแม่ผมได้แต่ยิ้ม ผมก็เดาไม่ออกว่านายแม่ตกลงหรือไม่
รุ่งเช้าของวันต่อมา ผมลงมาจากห้องนอน ไม่เจอใครอยู่ที่บ้าน ไลน์ไปถามหลานๆว่าไปไหนกันแต่เช้า
แล้วยาย (นายแม่ของผม)ไปด้วยรึเปล่า หลานไลน์ตอบกลับมาว่า กำลังตระเวนพายายไปหาวัดที่ยังไม่ได้รับกฐินปีนี้แถวโคราชอยู่
ฮะ! ผมนี้ถึงกับอึ้งไปเลย นายแม่ของผม เร็วแรงกว่าที่ผมคิดซะอีก
ไฮเปอร์ได้ลูกนะเนี่ย สืบเสาะได้ความมาว่า นายแม่โทรติดต่อประสานงานเองกับเจ้าหน้าที่
เช็คว่ามีวัดไหนที่ร้างกฐินบ้าง แล้วชวนหลานขับรถพาไปตระเวนหาเจ้าอาวาสยังวัดที่น้องเจ้าหน้าที่ให้เบอร์ติดต่อมา
เย็นวันนั้นแม่กลับมาบ้านพร้อมหลานๆ และข้าวของมากมายที่เด็กๆช่วยกันขนลงมาจากรถ
ผมถามแม่ว่า "ซื้ออะไรมาเยอะแยะหนะแม่"
แม่ตอบผมด้วยรอยยิ้มในดวงตาเต็มไปด้วยความสุข
"ซื้อมาไว้ใช้ในงานวันทอดกฐินไง" "ฮะ!ได้วัด
ได้วันทอดแล้วเหรอแม่" "ได้แล้ว ไปนุ้น เข้าไปถามพระรูปนึงท่านพาไปนุ้น
เข้าไปในอำเภอพิมายนุ้น กว่าจะเจอวัดที่ยังไม่มีกฐินเข้าไปลึกมาก และก็ได้วันที่จะทอดแล้วด้วย
นี่ๆ วัดนี้วันนี้ " พูดจบก็จัดแจงข้าวของต่างๆที่เพิ่งซื้อมาเป็น เครื่องงานจักสานจากไม้ไผ่
เช่นกระติ๊บข้าวขนาดใหญ่ แม่บอกว่า เอาไว้ประกอบในเครื่องกฐิน โอ้แม่เจ้า
เร็วไวได้ลูกจริงจริ๊งแม่ฉัน "แม่ ต้อง
เตรียมท่องบทกล่าวคำทอดกฐินนะ" ผมส่งบทกล่าวถวายผ้ากฐินให้แม่ แม่ยิ้มรับเอกสารจากผมไป
เตรียมท่องบทกล่าวคำทอดกฐินนะ" ผมส่งบทกล่าวถวายผ้ากฐินให้แม่ แม่ยิ้มรับเอกสารจากผมไป
หลังจากวันนั้น ทุกๆวันในบ้านของเราวุ่นวายเกี่ยวกับการเตรียมบริวารกฐินตามความเชื่อของคนโบร่ำโบราณด้วยการหาซื้อของ เช่น
ธงแขวนรูปตะขาบ ธงชาติ ธงธรรมจักร อุปกรณ์พวกโฟม กระดาษมากมายที่นายแม่จะจัดหาซื้อมาให้หลานๆ
ช่วยกันประดิษฐ์ ให้เป็นต้นเงินสำหรับผู้ที่จะร่วมบุญทอดกฐินกับนายแม่ของผม
แต่ละวันที่ผ่านไปก่อนจะถึงวันทอดกฐิน แม่จะเดินทางไปบอกบุญที่ขอนแก่นบ้านเกิดของแม่ และที่จังหวัดอุบลราชธานีบ้านเกิดของพ่อ
เพื่อบอกบุญญาติ ด้วยตัวเอง จนเราต้องวางแผนให้ทางขอนแก่นมีรถบัส 1 คัน
เพื่อรับญาติพี่น้องจากทางขอนแก่นให้มารวมกันที่วัดโคกขาม อ.พิมาย ในวันทอดกฐิน
ส่วนญาติๆทางจังหวัดอุบลราชธานีก็ให้มารวมกันที่บ้านผมที่คลองสาม แล้วขึ้นรถบัสกับรถตู้ไปที่วัดโคกขามด้วยกัน
นายแม่เปลี่ยน ขันทอง (ประธานกฐิน)
เชื่อมั้ยครับว่า
ผมไม่เคยรู้เลยว่าการเป็นประธานกฐินมันต้องใช้ปัจจัยเท่าไหร่ ได้แต่เข้าใจไปเองว่า
มันคงใช้ปัจจัยเยอะมาก
ถึงจะเป็นประธานกฐินได้ ความคิดที่จะเป็นประธานกฐินด้วยตัวเอง
หรือแม้แต่จะให้คนที่เรารักเป็นประธานกฐินจึงไม่เคยอยู่ในหัวผมเลย แต่ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นกับผม
อยู่ๆในใจผมก็อยากจะชวนนายแม่เป็นประธานกฐิน ลืมนึกไปเลยว่าก่อนวันทอดกฐินต้องใช้ปัจจัยมากแค่ไหนในการตระเตรียมงาน
ไปจนถึงวันทอดกฐิน
ข้าวปลาอาหารที่ต้องเลี้ยงต้อนรับผู้ที่มาทำบุญกับเราที่มาจากจังหวัดขอนแก่น
เพื่อนฝูงญาติพี่น้องที่มาจากที่ต่างๆที่จะมาขึ้นรถที่บ้านผม ณ คลองสาม หรือที่ทราบข่าว แล้วมาร่วมทำบุญถึงที่บ้าน เราจะต้องมีทั้งของที่ระลึกให้ได้ติดไม้ติดมือกลับไปด้วย
ค่ารถ ค่าเดินทาง อาหารการกิน อัฐบริขารอื่นๆอีก ไหนจะซองบอกบุญอีก
ล้วนแล้วแต่เป็นค่าใช้จ่ายทั้งนั้น และที่สำคัญคือยอดของปัจจัยที่จะถวายวัดอีกละ
ผมไม่ได้คิดถึงปัจจัยค่าใช้จ่ายเหล่านั้นเลย เพราะใจผมในเวลานั้นมุ่งไปแต่เพียงว่า
ได้เห็นบุคคลที่เรารักมากที่สุด ท่านได้เป็นประธานกฐินตกค้าง แค่นี้ก็ปลื้มอย่างที่สุดแล้ว
ผมคิดแค่นี้จริงๆ อุปสรรค ภาระต่างๆที่จะมีในระหว่างการเตรียมงานกฐินของนายแม่
มันจึงถูกแปรเปลี่ยนให้เป็นพลังงานอันบริสุทธิ์ ที่ทำให้ผม พี่ๆ เพื่อนๆ และหลานๆของยายทุกคนได้ช่วยกันคนละไม้ละมือ
สรรค์สร้างสิ่งต่างๆเพื่อความฝันของนายแม่ได้เป็นประธานกฐินตกค้างให้จงได้
และสิ่งที่ตอกย้ำและลบล้างความเชื่อผิดๆของการที่จะเป็นประธานกฐินได้ว่า
ต้องมียอดปัจจัยมากๆที่จะเป็นประธานกฐินได้ เฮ้ย!นี่เราเข้าใจผิดมาตลอดเลยนี่หว่า
คุณแม่เปลี่ยน ขันทอง(ประธาน)และทีมงานละครฟื้นฟูศีลธรรมโลก
บุญมหากฐิน วันอาทิตย์ที่ 13 พย. 59 เพื่อสร้างพระอุโบสถ์ ทอด ณ วัดโคกขาม อ.พิมาย จ.นครราชสีมา
นับตั้งแต่วันที่แม่รู้ว่าจะได้เป็นประธานกฐิน จนถึงวันทอดกฐิน ผมว่านี่เป็นอีกช่วงหนึ่งที่ผมเห็นแม่มีความสุขมากที่สุด ผมว่าวันที่แม่เป็นประธานกฐินตกค้าง เป็นวันที่แม่สวยที่สุดในสายตาของผม ผมดีใจที่ชวนแม่ให้เป็นประธานกฐินตกค้างในปีนี้ ไม่ผลัดเอาไว้ก่อนค่อยทำ ค่อยชวนแม่เป็นประธานกฐินละกัน อ้อนี่เองที่เขาเรียกว่า ทำบุญตุลิตะตุลิตัง ใครชวนทำบุญก็ทำเลย คิดได้ว่าจะทำบุญอะไรก็ทำเลย เอ้อ..แฮะ บุญตุลิตะตุลิตังพอจะทำเลยง่ายไปซะทุกอย่าง ราบรื่นฉลุยในทุกสถานการณ์
หลังจากนั้นไม่กี่เดือน คือวันที่ 30 ม.ค.ปี 2560 ก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีวี่แวว
ไม่มีสัญญาณใดๆบอกเหตุ แม่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาตอนเช้าตรู่เวลาประมาณตีสี่ แม่บอกให้พี่สาวไปตามผมที่นอนอยู่อีกห้อง ผมรีบวิ่งเข้ามาดูแม่
เห็นแม่นั่งอยู่ในห้องน้ำ ประโยคสุดท้ายที่แม่พูดกับผม แม่บอกว่า หายใจไม่ออก
แล้ว แม่ก็นิ่งไป ผมอุ้มแม่ออกมาจากห้องน้ำตระโกนบอกหลานๆให้รีบขับรถพา แม่ไปโรงพยาบาล
หลังจากนาทีนั้น ผมก็ไม่ได้ยินเสียงแม่อีกเลย นายแม่จากเราไปอย่างกระทันหัน
นายแม่เปลี่ยน ขันทอง
แต่เสียงเปล่งถวายผ้ากฐินของนายแม่ก็ยังดังก้องและชัดเจนในหูผมตลอดเวลา
ความตายไม่รอให้ถึงวันที่เราพร้อมจริงๆ ไม่รอให้ถึงปีหน้า หรือปีถัดๆไป เพื่อที่เราจะได้ทำบุญใหญ่
ความตายไม่มีวี่แวว ไม่มีสัญญาณใดๆมาบอกเหตุให้เราเตรียมพร้อม
แต่ความที่เรายังไม่ตาย ยังมีลมหายใจอยู่ มันคือช่วงเวลาที่เราจะต้องรีบเร่งกอบโกย
และฉวยโอกาสนี้เอาบุญใหญ่ บุญที่จะทำให้เรา และคนที่เรารักปลื้มมากที่สุด
ทำแล้วมีความสุขที่สุด บุญจากการเป็นประธานกฐินตกค้างทำได้แค่ปีละครั้ง
มันยากตั้งแต่การไปหาวัดที่จะได้รับกฐิน
วัดที่จะรับกฐินได้ก็ต้องมีพระจำพรรษาไม่น้อยกว่า 5 รูปที่ผมพูดถึงความยากทั้งหมด
เอาเข้าจริงๆมันไม่ได้ยากเลย ทุกอย่างมันจะถูกจัดการด้วยกระแสแห่งบุญที่เราตั้งใจจะทำในทันที
แต่สิ่งที่มันยากยิ่งกว่านั่นก็คือ การไม่คิดแม้แต่จะเป็นประธานกฐินนั่นเอง
นายแม่เปลี่ยน ขันทอง ประธานกล่าวคำถวายกฐิน
ป.ล. สุดท้ายนี้นะครับ เผื่อเทพธิดาแม่เปลี่ยน ขันทอง
หรือนายหญิงของบ่าวบนสรวงสวรรค์
ได้อ่านเจอที่ลูกชายเขียนเล่าให้พี่น้องๆได้อ่านได้ฟังกัน ผมก็อยากจะบอกนายแม่ว่า
วันนั้นรวบรวมปัจจัยได้ยอดสามแสนบาท
พวกเราจับไมค์บอกบุญต่อยอดบนศาลาวัดได้ปัจจัยเพิ่มเป็นเงินรวมทั้งหมด
ห้าแสนห้าหมื่นห้าพันห้าร้อยห้าสิบห้าบาท แม่จำได้แล้วใช่มั้ย อยู่บนนู้นชวนบริวารหัวเราะดังๆแบบปลื้มๆว่า
555555 นะแม่นะ
ชุดสุดท้ายที่ผมใส่ให้แม่คือชุดขาว
แล้วสวมทับด้วยเสื้อคลุมผ้าไหมสีสวยสดใส
ที่ผมเลือกซื้อมาให้แม่ใส่ในวันที่แม่เป็นประธานกฐิน
แม้ไม่ได้เก็บเสื้อคลุมผืนนั้นไว้ดู
แต่ภาพของแม่ที่เป็นประธานกฐินตกค้างก็ยังชัดเจนในใจของลูกเสมอ
Cr. ครูแก่นเครางาม
ความตายไม่เคยมีนิมิตบอกเหตุล่วงหน้า
วันพรุ่งนี้หรือชาติหน้าสิ่งใดมาก่อนไม่มีใครทราบได้
เมื่อบุญใหญ่มาถึงให้รีบขวนขวายตั้งใจสั่งสมบุญสร้างบารมีเป็นเสบียงติดตัวกันไปในภพเบื้องหน้า ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้กระทำในสิ่งที่สำคัญยิ่งของชีวิต เพราะบุญคือเพื่อนแท้ในปรโลก ขอกราบอนุโมทนาบุญ เทพธิดาแม่เปลี่ยน ขันทองอาจารย์วรศักดิ์ ขันทอง และคณะทีมละครฟื้นฟูศีลธรรมโลกทุกท่านมา ณ โอกาสนี้ สาธุ
ท้ายที่สุดนี้ขอกราบเรียนเชิญทุกท่านร่วมสั่งสมบุญสร้างบารมี ร่วมพิธีทอดผ้า กฐินสามัคคี เป็นมหากาลทานจำกัดด้วยกาล หลังออกพรรษาภายใน 1 เดือนทุก 1 ปี ทุกวัดทั่วประเทศทั่วโลกทอดได้เพียงครั้งเดียว จึงถือว่าเป็นบุญใหญ่มากๆ ฉะนั้นอย่าพลาดโอกาสบุญทอดกฐินสามัคคีในปีนี้ ใกล้วัดไหนก็ไปร่วมบุญกันที่วัดนั้น สำคัญเพื่อช่วยกันทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองคู่โลกสืบต่อไปตราบนานเท่านาน
วัดพระธรรมกาย จังหวัดปทุมธานี จัดให้มีพิธีทอดผ้ามหากฐินสามัคคี ในวันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 จึงขอกราบเรียนเชิญทุกท่านร่วมพิธีโดยพร้อมเพรียงกัน รักและปรารถนาดีใครชวนกันมาร่วมพิธีบุญทอดผ้ามหากฐินสามัคคีกันนะคะ
วัดพระธรรมกาย จังหวัดปทุมธานี จัดให้มีพิธีทอดผ้ามหากฐินสามัคคี ในวันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 จึงขอกราบเรียนเชิญทุกท่านร่วมพิธีโดยพร้อมเพรียงกัน รักและปรารถนาดีใครชวนกันมาร่วมพิธีบุญทอดผ้ามหากฐินสามัคคีกันนะคะ
ขอกราบอนุโมทนาบุญล่วงหน้ามา
ณ โอกาสนี้ สาธุค่ะ
กราบขอบพระคุณกราบอนุโมทนาบุญต่อ
นักเขียนอิสระ : อ.วรศักดิ์ ขันทอง(ครูแก่นเครางาม)
ผู้ตรวจทาน : อ.จงรักษ์ เชื้อแก้ว
ผู้ประสานงาน : I love dad
ผู้ประสานงาน : I love dad
#อนุโมทนาบุญ ด้วยอย่างยิ่งครับ
ตอบลบสาธุ ขอกราบอนุโมทนาบุญ
ตอบลบขอกราบอนุโมทนาบุญต่อเทพธิดานายแม่เปลี่ยน ขันทอง และ อ.วรศักดิ์ ขันทอง สาธุค่ะ
ตอบลบและขอเรียนเชิญทุกท่านร่วมพิธีทอดมหากฐินสามัคคี ณ วัดพระธรรมกาย ในวันอาทิตย์ที่ 3 พย. 62 บุญใหญ่รอทุกท่านอยู่ งานกฐินผ่านแล้วผ่านเลยไม่สามารถหวนคืนกลับมา บุญอยากได้ต้องทำเอง ไม่มีใครทำแทนได้ บุญอยู่เบื้องหลังความสุขและความสำเร็จทั้งมวล บุญคือเพื่อนแท้ในปรโลก รักและปรารถนาดีกับใครชวนกันมาร่วมพิธีบุญใหญ่กันนะคะ สาธุค่ะ
สาธุ สาธุ สาธุ
ตอบลบ