3 พย. 62 เรียนเชิญร่วมพิธีทอดกฐินสามัคคี ณ วัดพระธรรมกาย
ช่วงหลังเทศกาลออกพรรษาภายใน
1 เดือน ตั้งแต่แรม 1 ค่ำเดือน 11 ถึง ขึ้น 15
ค่ำเดือน 12 เป็นเดือนมหากุศล วันนี้ขอถือโอกาสนำสาระความรู้ที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา
เพื่อเป็นหนทางแห่งการสร้างมหากุศลให้แก่ทุกท่านได้ทราบ
คือ พิธีทอดกฐินสามัคคี ค่ะ
การทอดกฐิน เป็นประเพณีที่สำคัญของชาวพุทธ
การทอดกฐิน
ประเพณีการทอดกฐิน และอานิสงส์แห่งบุญ
การทอดกฐินเป็นประเพณีอันดีงามของชาวพุทธ
บุญทอดกฐินมีอานิสงส์มหาศาลทั้งผู้รับและผู้ให้
เป็นการนำผ้ากฐินไปวางไว้ต่อหน้าพระสงฆ์อย่างต่ำห้ารูป
แล้วให้พระสงฆ์รูปใดรูปหนึ่งที่ได้รับมอบหมายจากคณะสงฆ์ทั้งนั้นเป็นเอกฉันท์ให้เป็นผู้รับกฐิน
การทอดกฐิน
และประเพณีทอดกฐินเป็นกาลทานจำกัดด้วยกาล
การทอดกฐิน
เป็นประเพณีที่สำคัญของชาวพุทธ
การทอดกฐิน และประเพณีทอดกฐิน
ประวัติการรับผ้ากฐิน
และอานิงสงส์กฐิน
การทอดกฐินเป็นประเพณีอันดีงามของชาวพุทธที่ศาสนิกชนปฏิบัติสืบต่อกันมาแต่สมัยพุทธกาลเป็นเวลายาวนานกว่า
2,500 ปี กำเนิดขึ้นเมื่อครั้งที่พระภิกษุชาวเมืองปาไฐยรัฐออกเดินทางไกล
เพื่อไปเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ วัดพระเชตวัน
พระภิกษุเหล่านั้นมีจีวรที่เปรอะเปื้อนเปียกชุ่ม และเปื่อยขาดด้วยความเก่า
พระบรมศาสดาจึงทรงมีพุทธานุญาตให้ภิกษุอยู่จำพรรษารับผ้ากฐินได้หลังออกพรรษา
เพื่อนำมาผลัดเปลี่ยนผ้าเก่า
ประเพณีทอดกฐินได้เกิดขึ้นตั้งแต่ครั้งนั้นและสืบทอดมาจนกระทั่งปัจจุบัน
การทอดกฐินเป็นบุญที่มีอานิสงส์มหาศาล
บุญจากการทอดกฐินเป็นบุญพิเศษ
ที่ทำได้ยากกว่าบุญอื่น ด้วยสาเหตุหลายประการ ดังนี้ คือ
1.จำกัดด้วยเวลา
คือต้องถวายภายใน 1 เดือน นับตั้งแต่วันออกพรรษา
2.จำกัดชนิดทาน
คือ ต้องถวายเป็นสังฆทานเท่านั้น
จะถวายเจาะจงภิกษุรูปใดรูปหนึ่งเหมือนทานอื่นไม่ได้
3.จำกัดคราว
คือ แต่ละวัดรับกฐินได้เพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น
4.จำกัดผู้รับ
คือ พระภิกษุรับกฐินได้จะต้องจำพรรษาที่วัดนั้นครบไตรมาส (3 เดือน)
และจะต้องมีจำนวนตั้งแต่ 5 รูปขึ้นไป
5.จำกัดงาน
คือ เมื่อพระภิกษุรับผ้ากฐินแล้ว จะต้องกรานกฐินให้เสร็จภายในวันนั้น
6.จำกัดของถวาย
คือ ไทยธรรมที่ถวายต้องเป็นผ้าผืนใดผืนหนึ่งในไตรจีวรเท่านั้น
โดยทั่วไปนิยมใช้สังฆาฏิ ไทยธรรมอื่นจัดเป็นบริวารกฐิน เกิดจากพุทธประสงค์
พระสัมมาสัมมาพุทธเจ้าทรงมีพุทธานุญาตให้พระภิกษุสงฆ์รับผ้ากฐินเพื่อพลัดเปลี่ยนไตรจีวรเก่า
แต่ทานอย่างอื่นทายกทูลขอให้อนุญาต เช่น มหาอุบาสิกาวิสาขาทูลขออนุญาต
ถวายผ้าอาบน้ำฝน
ผ้ากฐิน
โดยความหมายก็คือผ้าสำเร็จรูปโดยอาศัยไม้สะดึง นิยมเรียกกันจนปัจจุบันนี้
การทอดกฐิน คือ
การนำผ้ากฐินไปวางไว้ต่อหน้าพระสงฆ์อย่างต่ำ 5 รูป
แล้วให้พระสงฆ์รูปใดรูปหนึ่งที่ได้รับมอบหมาย
จากคณะสงฆ์ทั้งนั้นเป็นเอกฉันท์ให้เป็นผู้รับกฐินนั้น
เขตกำหนดทอดกฐิน
การทอดกฐินเป็นกาลทาน ตามพระวินัยกำหนดกาลไว้ คือ
ตั้งแต่แรม 1 ค่ำ เดือน 11 ถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ( ปีนี้ทุกวัดเริ่มพิธีทอดกฐินตั้งแต่วันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม ถึง
วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2562 ) ผู้มีจิตศรัทธาเลื่อมใส ใคร่จะทอดกฐิน ก็ให้ทอดได้ในระหว่างระยะเวลานี้ จะทอดก่อนหรือทอดหลังกำหนดนี้
ไม่จัดเป็นการทอดกฐิน
แต่มีข้อยกเว้นพิเศษว่า ถ้าทายกผู้จะทอดกฐินนั้น มีกิจจำเป็น
เช่น จะต้องไปในทัพ ไม่สามารถจะอยู่ทอดกฐินตามกำหนดนั้นได้ จะทอดกฐินก่อนกำหนดดังกล่าวแล้วพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ทรงอนุญาตให้ภิกษุรับไว้ก่อนได้ นอกจากนี้การทอดกฐินยังเป็นทานที่พิเศษ
คือ ทั้งพระภิกษุและญาติโยมผู้ทอดกฐินได้อานิสงส์ด้วยกัน การทอดกฐินจึงเป็นบุญใหญ่
ที่ผู้ให้ (คฤหัสถ์) และผู้รับ (พระภิกษุสงฆ์) ต่างก็ได้บุญทั้ง 2 ฝ่าย
อานิสงส์กฐินสำหรับพระ
1.เที่ยวไปสู่ที่สงัด
เพื่อแสวงหาที่ปฏิบัติธรรมได้ตามสะดวก โดยไม่ต้องบอกลา
2.เที่ยวไปได้
โดยไม่ต้องนำผ้าไตรจีวรไปครบสำรับ
3.ฉันคณะโภชนะได้
คือ ฉันภัตตาหารร่วมโต๊ะหรือร่วมวงฉันด้วยกันได้
4.ทรงอดิเรกจีวรได้ตามปรารถนา
คือ รับผ้าจีวรได้มากผืน
5.จีวรที่เกิดขึ้น
ณ ที่นั้นจักได้แก่พวกเธอ คือ หากได้ผ้าจีวรมาเพิ่มอีก
ก็สามารถเก็บไว้ใช้ได้ไม่ต้องเข้าส่วนกลาง
การทำบุญทอดกฐินและการถวายผ้ากฐิน สิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงดำริขึ้นด้วยพระองค์เอง
ความหมายของคำว่า
ทอดกฐิน
คำว่า
กฐิน แปลว่า สะดึง หมายถึง ไม้ที่ใช้สำหรับขึงผ้าให้ตึง มีทั้งรูปสี่เหลี่ยม
และรูปวงกลม เมื่อขึงผ้าด้วยสะดึงแล้วจะทำให้เย็บผ้าได้ง่ายขึ้น
แต่ในอีกความหมายหนึ่งนั้น
หมายเอาผ้าจีวรที่ถวายแด่พระสงฆ์ที่อยู่ประจำอารามจนครบพรรษา คำว่า ทอดกฐิน
จึงหมายถึง การน้อมนำผ้าจีวรมาวางทอดลง เพื่อถวายแด่ภิกษุสงฆ์
มิได้เจาะจงแก่ภิกษุรูปใด เทศกาลทอดกฐินจะเรียกอีกแบบ คือ ฤดูกาลเปลี่ยนผ้าใหม่ของพระภิกษุ
โดยในอดีตกาล ยุคต้นที่พระพุทธศาสนาเริ่มบังเกิดขึ้น
ผ้าที่ภิกษุได้มานั้นเป็นผ้าที่ไม่มีเจ้าของหรือผ้าที่เขาทิ้งแล้ว เช่น
ผ้าห่อศพในป่าช้า หรือผ้าที่เขาทิ้งไว้ตามกองหยากเยื่อ ที่เป็นเช่นนี้
เพราะผ้าในยุคนั้นเป็นของมีค่าหาได้ยาก การที่ภิกษุแสวงหาผ้าที่ไม่มีผู้หวงแหน
นำมาใช้นุ่งห่ม จึงแสดงถึงความสันโดษมักน้อยของนักบวชผู้มุ่งแสวงหาทางหลุดพ้น
อีกประการหนึ่ง
จะได้ไม่เป็นที่หมายปองของพวกโจร จะได้ไม่ถูกขโมยหรือถูกโจรปล้นชิงไป
เพราะผู้คนในสมัยนั้น รังเกียจผ้าผุปะหรือผ้าเก่าๆ ถือว่าเป็นผ้าเสนียด
จึงไม่มีใครอยากได้
แต่มาภายหลังพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้พระภิกษุรับผ้าที่คหบดีนำมาถวายได้
เนื่องจากหมอชีวกได้กราบทูลเพื่อที่จะถวายผ้าแด่พระภิกษุ
เพราะเห็นว่าพระภิกษุทั้งหลายมีความลำบากในการแสวงหาผ้าเป็นอย่างยิ่ง
รูปแบบของจีวร
รูปแบบของจีวรนั้น
เกิดขึ้นจากพระดำริของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กล่าวคือ ครั้งหนึ่ง
พระองค์ทรงชี้ให้พระอานนท์แลดูคันนาของชาวมคธ
และให้ออกแบบตัดเย็บโดยใช้แผ่นผ้าหลายชิ้นนำมาเย็บต่อๆ กันเป็นขันธ์ คล้ายคันนา
เพื่อให้เป็นผ้ามีตำหนิไม่มีใครอยากได้ พระพุทธองค์ทรงบัญญัติให้จีวรมีห้าขันธ์ขึ้นไป
สำหรับจีวรในปัจจุบันมี 5 ขันธ์นับเฉพาะแนวตั้ง เรียกว่า มณฑล
ส่วนขันธ์ย่อยเรียกว่า อัฑฒมณฑล
ท้ายที่สุดนี้
วัดพระธรรมกาย ได้จัดให้มีพิธีทอดผ้ามหากฐินสามัคคี วันอาทิตย์ต้นเดือนที่ 3 พฤศจิกายน
พุทธศักราช 2562
จึงขอกราบเรียนเชิญทุกท่านได้ร่วมพิธีบุญใหญ่นี้โดยพร้อมเพรียงกัน
เตรียมกายวาจาใจให้ใสๆรักและปรารถนาดีกับใครชวนกันไปร่วมพิธีทอดผ้ามหากฐินสามัคคี การสั่งสมบุญนำสุขมาให้ทั้งภพชาติปัจจุบันและภพเบื้องหน้า ใกล้วัดไหนก็ไปร่วมพิธีบุญทอดกฐินเพื่อช่วยกันทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองตราบนานเท่านาน เพื่อเป็นที่พึ่งที่ระลึกแก่มวลมนุษย์ชาติ
ดังพุทธศาสนสุภาษิตความว่า
ปุญฺญานิ
ปรโลกสฺมึ ปติฏฺฐา โหนฺติ
ปาณินํ
บุญเป็นที่พึ่งของสัตว์ในโลกหน้า
ที่มา :
ขุททกนิกาย ชาดก ทสกนิบาต (ขุ. ชา. ทสก. 27/294)
กราบขอบพระคุณ
: