วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2562

พิธีทอดกฐินสามัคคี...1ปีมีครั้งเดียวบุญใหญ่พลาดได้ไง!


3 พย. 62 เรียนเชิญร่วมพิธีทอดกฐินสามัคคี ณ วัดพระธรรมกาย

ช่วงหลังเทศกาลออกพรรษาภายใน 1 เดือน ตั้งแต่แรม 1 ค่ำเดือน 11 ถึง ขึ้น 15 ค่ำเดือน 12 เป็นเดือนมหากุศล  วันนี้ขอถือโอกาสนำสาระความรู้ที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา   เพื่อเป็นหนทางแห่งการสร้างมหากุศลให้แก่ทุกท่านได้ทราบ คือ พิธีทอดกฐินสามัคคี  ค่ะ

การทอดกฐิน เป็นประเพณีที่สำคัญของชาวพุทธ

การทอดกฐิน ประเพณีการทอดกฐิน และอานิสงส์แห่งบุญ
การทอดกฐินเป็นประเพณีอันดีงามของชาวพุทธ บุญทอดกฐินมีอานิสงส์มหาศาลทั้งผู้รับและผู้ให้ เป็นการนำผ้ากฐินไปวางไว้ต่อหน้าพระสงฆ์อย่างต่ำห้ารูป แล้วให้พระสงฆ์รูปใดรูปหนึ่งที่ได้รับมอบหมายจากคณะสงฆ์ทั้งนั้นเป็นเอกฉันท์ให้เป็นผู้รับกฐิน

การทอดกฐิน และประเพณีทอดกฐินเป็นกาลทานจำกัดด้วยกาล
การทอดกฐิน เป็นประเพณีที่สำคัญของชาวพุทธ

การทอดกฐิน และประเพณีทอดกฐิน


ประวัติการรับผ้ากฐิน และอานิงสงส์กฐิน
การทอดกฐินเป็นประเพณีอันดีงามของชาวพุทธที่ศาสนิกชนปฏิบัติสืบต่อกันมาแต่สมัยพุทธกาลเป็นเวลายาวนานกว่า 2,500 ปี กำเนิดขึ้นเมื่อครั้งที่พระภิกษุชาวเมืองปาไฐยรัฐออกเดินทางไกล เพื่อไปเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ วัดพระเชตวัน พระภิกษุเหล่านั้นมีจีวรที่เปรอะเปื้อนเปียกชุ่ม และเปื่อยขาดด้วยความเก่า พระบรมศาสดาจึงทรงมีพุทธานุญาตให้ภิกษุอยู่จำพรรษารับผ้ากฐินได้หลังออกพรรษา เพื่อนำมาผลัดเปลี่ยนผ้าเก่า ประเพณีทอดกฐินได้เกิดขึ้นตั้งแต่ครั้งนั้นและสืบทอดมาจนกระทั่งปัจจุบัน


การทอดกฐินเป็นบุญที่มีอานิสงส์มหาศาล

บุญจากการทอดกฐินเป็นบุญพิเศษ ที่ทำได้ยากกว่าบุญอื่น ด้วยสาเหตุหลายประการ ดังนี้ คือ

1.จำกัดด้วยเวลา คือต้องถวายภายใน 1 เดือน นับตั้งแต่วันออกพรรษา
2.จำกัดชนิดทาน คือ ต้องถวายเป็นสังฆทานเท่านั้น จะถวายเจาะจงภิกษุรูปใดรูปหนึ่งเหมือนทานอื่นไม่ได้
3.จำกัดคราว คือ แต่ละวัดรับกฐินได้เพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น
4.จำกัดผู้รับ คือ พระภิกษุรับกฐินได้จะต้องจำพรรษาที่วัดนั้นครบไตรมาส (3 เดือน) และจะต้องมีจำนวนตั้งแต่ 5 รูปขึ้นไป
5.จำกัดงาน คือ เมื่อพระภิกษุรับผ้ากฐินแล้ว จะต้องกรานกฐินให้เสร็จภายในวันนั้น
6.จำกัดของถวาย คือ ไทยธรรมที่ถวายต้องเป็นผ้าผืนใดผืนหนึ่งในไตรจีวรเท่านั้น โดยทั่วไปนิยมใช้สังฆาฏิ ไทยธรรมอื่นจัดเป็นบริวารกฐิน เกิดจากพุทธประสงค์ พระสัมมาสัมมาพุทธเจ้าทรงมีพุทธานุญาตให้พระภิกษุสงฆ์รับผ้ากฐินเพื่อพลัดเปลี่ยนไตรจีวรเก่า แต่ทานอย่างอื่นทายกทูลขอให้อนุญาต เช่น มหาอุบาสิกาวิสาขาทูลขออนุญาต ถวายผ้าอาบน้ำฝน

ผ้ากฐิน โดยความหมายก็คือผ้าสำเร็จรูปโดยอาศัยไม้สะดึง นิยมเรียกกันจนปัจจุบันนี้

การทอดกฐิน และประเพณีทอดกฐิน

การทอดกฐิน คือ การนำผ้ากฐินไปวางไว้ต่อหน้าพระสงฆ์อย่างต่ำ 5 รูป แล้วให้พระสงฆ์รูปใดรูปหนึ่งที่ได้รับมอบหมาย จากคณะสงฆ์ทั้งนั้นเป็นเอกฉันท์ให้เป็นผู้รับกฐินนั้น

เขตกำหนดทอดกฐิน

การทอดกฐินเป็นกาลทาน ตามพระวินัยกำหนดกาลไว้ คือ ตั้งแต่แรม 1 ค่ำ เดือน 11 ถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ( ปีนี้ทุกวัดเริ่มพิธีทอดกฐินตั้งแต่วันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม ถึง วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2562 ) ผู้มีจิตศรัทธาเลื่อมใส ใคร่จะทอดกฐิน ก็ให้ทอดได้ในระหว่างระยะเวลานี้ จะทอดก่อนหรือทอดหลังกำหนดนี้ ไม่จัดเป็นการทอดกฐิน

แต่มีข้อยกเว้นพิเศษว่า ถ้าทายกผู้จะทอดกฐินนั้น มีกิจจำเป็น เช่น จะต้องไปในทัพ ไม่สามารถจะอยู่ทอดกฐินตามกำหนดนั้นได้ จะทอดกฐินก่อนกำหนดดังกล่าวแล้วพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงอนุญาตให้ภิกษุรับไว้ก่อนได้ นอกจากนี้การทอดกฐินยังเป็นทานที่พิเศษ คือ ทั้งพระภิกษุและญาติโยมผู้ทอดกฐินได้อานิสงส์ด้วยกัน การทอดกฐินจึงเป็นบุญใหญ่ ที่ผู้ให้ (คฤหัสถ์) และผู้รับ (พระภิกษุสงฆ์) ต่างก็ได้บุญทั้ง 2 ฝ่าย

อานิสงส์กฐินสำหรับพระ

1.เที่ยวไปสู่ที่สงัด เพื่อแสวงหาที่ปฏิบัติธรรมได้ตามสะดวก โดยไม่ต้องบอกลา
2.เที่ยวไปได้ โดยไม่ต้องนำผ้าไตรจีวรไปครบสำรับ
3.ฉันคณะโภชนะได้ คือ ฉันภัตตาหารร่วมโต๊ะหรือร่วมวงฉันด้วยกันได้
4.ทรงอดิเรกจีวรได้ตามปรารถนา คือ รับผ้าจีวรได้มากผืน
5.จีวรที่เกิดขึ้น ณ ที่นั้นจักได้แก่พวกเธอ คือ หากได้ผ้าจีวรมาเพิ่มอีก ก็สามารถเก็บไว้ใช้ได้ไม่ต้องเข้าส่วนกลาง

การทำบุญทอดกฐินและการถวายผ้ากฐิน สิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงดำริขึ้นด้วยพระองค์เอง

ความหมายของคำว่า ทอดกฐิน

คำว่า กฐิน แปลว่า สะดึง หมายถึง ไม้ที่ใช้สำหรับขึงผ้าให้ตึง มีทั้งรูปสี่เหลี่ยม และรูปวงกลม เมื่อขึงผ้าด้วยสะดึงแล้วจะทำให้เย็บผ้าได้ง่ายขึ้น แต่ในอีกความหมายหนึ่งนั้น หมายเอาผ้าจีวรที่ถวายแด่พระสงฆ์ที่อยู่ประจำอารามจนครบพรรษา คำว่า ทอดกฐิน จึงหมายถึง การน้อมนำผ้าจีวรมาวางทอดลง เพื่อถวายแด่ภิกษุสงฆ์ มิได้เจาะจงแก่ภิกษุรูปใด เทศกาลทอดกฐินจะเรียกอีกแบบ คือ ฤดูกาลเปลี่ยนผ้าใหม่ของพระภิกษุ โดยในอดีตกาล ยุคต้นที่พระพุทธศาสนาเริ่มบังเกิดขึ้น ผ้าที่ภิกษุได้มานั้นเป็นผ้าที่ไม่มีเจ้าของหรือผ้าที่เขาทิ้งแล้ว เช่น ผ้าห่อศพในป่าช้า หรือผ้าที่เขาทิ้งไว้ตามกองหยากเยื่อ ที่เป็นเช่นนี้ เพราะผ้าในยุคนั้นเป็นของมีค่าหาได้ยาก การที่ภิกษุแสวงหาผ้าที่ไม่มีผู้หวงแหน นำมาใช้นุ่งห่ม จึงแสดงถึงความสันโดษมักน้อยของนักบวชผู้มุ่งแสวงหาทางหลุดพ้น

อีกประการหนึ่ง จะได้ไม่เป็นที่หมายปองของพวกโจร จะได้ไม่ถูกขโมยหรือถูกโจรปล้นชิงไป เพราะผู้คนในสมัยนั้น รังเกียจผ้าผุปะหรือผ้าเก่าๆ ถือว่าเป็นผ้าเสนียด จึงไม่มีใครอยากได้ แต่มาภายหลังพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้พระภิกษุรับผ้าที่คหบดีนำมาถวายได้ เนื่องจากหมอชีวกได้กราบทูลเพื่อที่จะถวายผ้าแด่พระภิกษุ เพราะเห็นว่าพระภิกษุทั้งหลายมีความลำบากในการแสวงหาผ้าเป็นอย่างยิ่ง

รูปแบบของจีวร

รูปแบบของจีวรนั้น เกิดขึ้นจากพระดำริของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กล่าวคือ ครั้งหนึ่ง พระองค์ทรงชี้ให้พระอานนท์แลดูคันนาของชาวมคธ และให้ออกแบบตัดเย็บโดยใช้แผ่นผ้าหลายชิ้นนำมาเย็บต่อๆ กันเป็นขันธ์ คล้ายคันนา เพื่อให้เป็นผ้ามีตำหนิไม่มีใครอยากได้ พระพุทธองค์ทรงบัญญัติให้จีวรมีห้าขันธ์ขึ้นไป สำหรับจีวรในปัจจุบันมี 5 ขันธ์นับเฉพาะแนวตั้ง เรียกว่า มณฑล ส่วนขันธ์ย่อยเรียกว่า อัฑฒมณฑล



ท้ายที่สุดนี้ วัดพระธรรมกาย ได้จัดให้มีพิธีทอดผ้ามหากฐินสามัคคี วันอาทิตย์ต้นเดือนที่ 3 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2562   

จึงขอกราบเรียนเชิญทุกท่านได้ร่วมพิธีบุญใหญ่นี้โดยพร้อมเพรียงกัน เตรียมกายวาจาใจให้ใสๆรักและปรารถนาดีกับใครชวนกันไปร่วมพิธีทอดผ้ามหากฐินสามัคคี การสั่งสมบุญนำสุขมาให้ทั้งภพชาติปัจจุบันและภพเบื้องหน้า ใกล้วัดไหนก็ไปร่วมพิธีบุญทอดกฐินเพื่อช่วยกันทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองตราบนานเท่านาน เพื่อเป็นที่พึ่งที่ระลึกแก่มวลมนุษย์ชาติ

ดังพุทธศาสนสุภาษิตความว่า

ปุญฺญานิ  ปรโลกสฺมึ  ปติฏฺฐา  โหนฺติ  ปาณินํ
บุญเป็นที่พึ่งของสัตว์ในโลกหน้า

ที่มา : ขุททกนิกาย ชาดก ทสกนิบาต (ขุ. ชา. ทสก. 27/294)

กราบขอบพระคุณ

วันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2562

ผมมีเรื่องปลื้มๆข้ามชาติจะมาเล่าให้ฟังครับ



นายแม่เปลี่ยน ขันทอง(ประธานกฐิน)


เมื่อปี2559 หลังจากออกพรรษาได้ไม่กี่วัน ขณะที่ผมนั่งธรรมะอยู่ที่วัด มีสิ่งหนึ่งผุดขึ้นมาในใจผม นั่นก็คือ "เฮ้ย...ทำไมไม่ชวนแม่มาเป็นประธานกฐินล่ะ"   มันทำให้ผมออกจากสมาธิ  ขับรถกลับบ้าน ไปบอกนายแม่ว่า "แม่ๆ ปีนี้แม่เป็นประธานกฐินมั้ย เอาวัดที่ร้างกฐิน ที่ยังไม่มีใครจองกฐิน ผมว่าหาไม่ยากหรอกแถวภาคอีสาน เดี๋ยวลูกประสานงานถามน้องเจ้าหน้าที่ในวัดที่ดูแลภาคอีสานแถวโคราช ก็น่าจะมีนะนายแม่" นายแม่ผมได้แต่ยิ้ม ผมก็เดาไม่ออกว่านายแม่ตกลงหรือไม่


รุ่งเช้าของวันต่อมา ผมลงมาจากห้องนอน ไม่เจอใครอยู่ที่บ้าน ไลน์ไปถามหลานๆว่าไปไหนกันแต่เช้า แล้วยาย (นายแม่ของผม)ไปด้วยรึเปล่า หลานไลน์ตอบกลับมาว่า  กำลังตระเวนพายายไปหาวัดที่ยังไม่ได้รับกฐินปีนี้แถวโคราชอยู่ ฮะ! ผมนี้ถึงกับอึ้งไปเลย นายแม่ของผม เร็วแรงกว่าที่ผมคิดซะอีก ไฮเปอร์ได้ลูกนะเนี่ย สืบเสาะได้ความมาว่า นายแม่โทรติดต่อประสานงานเองกับเจ้าหน้าที่ เช็คว่ามีวัดไหนที่ร้างกฐินบ้าง แล้วชวนหลานขับรถพาไปตระเวนหาเจ้าอาวาสยังวัดที่น้องเจ้าหน้าที่ให้เบอร์ติดต่อมา


เย็นวันนั้นแม่กลับมาบ้านพร้อมหลานๆ และข้าวของมากมายที่เด็กๆช่วยกันขนลงมาจากรถ ผมถามแม่ว่า "ซื้ออะไรมาเยอะแยะหนะแม่" แม่ตอบผมด้วยรอยยิ้มในดวงตาเต็มไปด้วยความสุข "ซื้อมาไว้ใช้ในงานวันทอดกฐินไง" "ฮะ!ได้วัด ได้วันทอดแล้วเหรอแม่" "ได้แล้ว ไปนุ้น เข้าไปถามพระรูปนึงท่านพาไปนุ้น เข้าไปในอำเภอพิมายนุ้น กว่าจะเจอวัดที่ยังไม่มีกฐินเข้าไปลึกมาก และก็ได้วันที่จะทอดแล้วด้วย นี่ๆ วัดนี้วันนี้ " พูดจบก็จัดแจงข้าวของต่างๆที่เพิ่งซื้อมาเป็น เครื่องงานจักสานจากไม้ไผ่ เช่นกระติ๊บข้าวขนาดใหญ่  แม่บอกว่า เอาไว้ประกอบในเครื่องกฐิน โอ้แม่เจ้า เร็วไวได้ลูกจริงจริ๊งแม่ฉัน "แม่  ต้อง
เตรียมท่องบทกล่าวคำทอดกฐินนะ"  ผมส่งบทกล่าวถวายผ้ากฐินให้แม่ แม่ยิ้มรับเอกสารจากผมไป




หลังจากวันนั้น ทุกๆวันในบ้านของเราวุ่นวายเกี่ยวกับการเตรียมบริวารกฐินตามความเชื่อของคนโบร่ำโบราณด้วยการหาซื้อของ   เช่น ธงแขวนรูปตะขาบ ธงชาติ ธงธรรมจักร อุปกรณ์พวกโฟม กระดาษมากมายที่นายแม่จะจัดหาซื้อมาให้หลานๆ ช่วยกันประดิษฐ์  ให้เป็นต้นเงินสำหรับผู้ที่จะร่วมบุญทอดกฐินกับนายแม่ของผม  


แต่ละวันที่ผ่านไปก่อนจะถึงวันทอดกฐิน แม่จะเดินทางไปบอกบุญที่ขอนแก่นบ้านเกิดของแม่ และที่จังหวัดอุบลราชธานีบ้านเกิดของพ่อ เพื่อบอกบุญญาติ ด้วยตัวเอง จนเราต้องวางแผนให้ทางขอนแก่นมีรถบัส 1 คัน เพื่อรับญาติพี่น้องจากทางขอนแก่นให้มารวมกันที่วัดโคกขาม อ.พิมาย ในวันทอดกฐิน ส่วนญาติๆทางจังหวัดอุบลราชธานีก็ให้มารวมกันที่บ้านผมที่คลองสาม แล้วขึ้นรถบัสกับรถตู้ไปที่วัดโคกขามด้วยกัน


นายแม่เปลี่ยน ขันทอง (ประธานกฐิน)


เชื่อมั้ยครับว่า ผมไม่เคยรู้เลยว่าการเป็นประธานกฐินมันต้องใช้ปัจจัยเท่าไหร่ ได้แต่เข้าใจไปเองว่า  มันคงใช้ปัจจัยเยอะมาก ถึงจะเป็นประธานกฐินได้ ความคิดที่จะเป็นประธานกฐินด้วยตัวเอง หรือแม้แต่จะให้คนที่เรารักเป็นประธานกฐินจึงไม่เคยอยู่ในหัวผมเลย แต่ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นกับผม  อยู่ๆในใจผมก็อยากจะชวนนายแม่เป็นประธานกฐิน   ลืมนึกไปเลยว่าก่อนวันทอดกฐินต้องใช้ปัจจัยมากแค่ไหนในการตระเตรียมงาน ไปจนถึงวันทอดกฐิน ข้าวปลาอาหารที่ต้องเลี้ยงต้อนรับผู้ที่มาทำบุญกับเราที่มาจากจังหวัดขอนแก่น เพื่อนฝูงญาติพี่น้องที่มาจากที่ต่างๆที่จะมาขึ้นรถที่บ้านผม ณ คลองสาม หรือที่ทราบข่าว แล้วมาร่วมทำบุญถึงที่บ้าน  เราจะต้องมีทั้งของที่ระลึกให้ได้ติดไม้ติดมือกลับไปด้วย ค่ารถ ค่าเดินทาง อาหารการกิน อัฐบริขารอื่นๆอีก  ไหนจะซองบอกบุญอีก ล้วนแล้วแต่เป็นค่าใช้จ่ายทั้งนั้น และที่สำคัญคือยอดของปัจจัยที่จะถวายวัดอีกละ ผมไม่ได้คิดถึงปัจจัยค่าใช้จ่ายเหล่านั้นเลย เพราะใจผมในเวลานั้นมุ่งไปแต่เพียงว่า ได้เห็นบุคคลที่เรารักมากที่สุด ท่านได้เป็นประธานกฐินตกค้าง แค่นี้ก็ปลื้มอย่างที่สุดแล้ว ผมคิดแค่นี้จริงๆ  อุปสรรค ภาระต่างๆที่จะมีในระหว่างการเตรียมงานกฐินของนายแม่ มันจึงถูกแปรเปลี่ยนให้เป็นพลังงานอันบริสุทธิ์ ที่ทำให้ผม พี่ๆ เพื่อนๆ  และหลานๆของยายทุกคนได้ช่วยกันคนละไม้ละมือ สรรค์สร้างสิ่งต่างๆเพื่อความฝันของนายแม่ได้เป็นประธานกฐินตกค้างให้จงได้ และสิ่งที่ตอกย้ำและลบล้างความเชื่อผิดๆของการที่จะเป็นประธานกฐินได้ว่า ต้องมียอดปัจจัยมากๆที่จะเป็นประธานกฐินได้ เฮ้ย!นี่เราเข้าใจผิดมาตลอดเลยนี่หว่า




คุณแม่เปลี่ยน ขันทอง(ประธาน)และทีมงานละครฟื้นฟูศีลธรรมโลก
บุญมหากฐิน วันอาทิตย์ที่ 13 พย. 59 เพื่อสร้างพระอุโบสถ์ ทอด ณ วัดโคกขาม อ.พิมาย จ.นครราชสีมา


นับตั้งแต่วันที่แม่รู้ว่าจะได้เป็นประธานกฐิน  จนถึงวันทอดกฐิน ผมว่านี่เป็นอีกช่วงหนึ่งที่ผมเห็นแม่มีความสุขมากที่สุด ผมว่าวันที่แม่เป็นประธานกฐินตกค้าง เป็นวันที่แม่สวยที่สุดในสายตาของผม ผมดีใจที่ชวนแม่ให้เป็นประธานกฐินตกค้างในปีนี้   ไม่ผลัดเอาไว้ก่อนค่อยทำ ค่อยชวนแม่เป็นประธานกฐินละกัน อ้อนี่เองที่เขาเรียกว่า ทำบุญตุลิตะตุลิตัง ใครชวนทำบุญก็ทำเลย คิดได้ว่าจะทำบุญอะไรก็ทำเลย เอ้อ..แฮะ บุญตุลิตะตุลิตังพอจะทำเลยง่ายไปซะทุกอย่าง ราบรื่นฉลุยในทุกสถานการณ์ 
    



หลังจากนั้นไม่กี่เดือน คือวันที่ 30 ม.ค.ปี 2560 ก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีวี่แวว ไม่มีสัญญาณใดๆบอกเหตุ  แม่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาตอนเช้าตรู่เวลาประมาณตีสี่  แม่บอกให้พี่สาวไปตามผมที่นอนอยู่อีกห้อง ผมรีบวิ่งเข้ามาดูแม่ เห็นแม่นั่งอยู่ในห้องน้ำ ประโยคสุดท้ายที่แม่พูดกับผม  แม่บอกว่า หายใจไม่ออก แล้ว แม่ก็นิ่งไป ผมอุ้มแม่ออกมาจากห้องน้ำตระโกนบอกหลานๆให้รีบขับรถพา แม่ไปโรงพยาบาล หลังจากนาทีนั้น ผมก็ไม่ได้ยินเสียงแม่อีกเลย นายแม่จากเราไปอย่างกระทันหัน




นายแม่เปลี่ยน ขันทอง



แต่เสียงเปล่งถวายผ้ากฐินของนายแม่ก็ยังดังก้องและชัดเจนในหูผมตลอดเวลา ความตายไม่รอให้ถึงวันที่เราพร้อมจริงๆ ไม่รอให้ถึงปีหน้า หรือปีถัดๆไป เพื่อที่เราจะได้ทำบุญใหญ่ ความตายไม่มีวี่แวว ไม่มีสัญญาณใดๆมาบอกเหตุให้เราเตรียมพร้อม แต่ความที่เรายังไม่ตาย ยังมีลมหายใจอยู่ มันคือช่วงเวลาที่เราจะต้องรีบเร่งกอบโกย และฉวยโอกาสนี้เอาบุญใหญ่ บุญที่จะทำให้เรา และคนที่เรารักปลื้มมากที่สุด ทำแล้วมีความสุขที่สุด   บุญจากการเป็นประธานกฐินตกค้างทำได้แค่ปีละครั้ง มันยากตั้งแต่การไปหาวัดที่จะได้รับกฐิน วัดที่จะรับกฐินได้ก็ต้องมีพระจำพรรษาไม่น้อยกว่า 5 รูปที่ผมพูดถึงความยากทั้งหมด เอาเข้าจริงๆมันไม่ได้ยากเลย ทุกอย่างมันจะถูกจัดการด้วยกระแสแห่งบุญที่เราตั้งใจจะทำในทันที แต่สิ่งที่มันยากยิ่งกว่านั่นก็คือ การไม่คิดแม้แต่จะเป็นประธานกฐินนั่นเอง


นายแม่เปลี่ยน ขันทอง ประธานกล่าวคำถวายกฐิน

ป.ล. สุดท้ายนี้นะครับ เผื่อเทพธิดาแม่เปลี่ยน ขันทอง หรือนายหญิงของบ่าวบนสรวงสวรรค์ ได้อ่านเจอที่ลูกชายเขียนเล่าให้พี่น้องๆได้อ่านได้ฟังกัน ผมก็อยากจะบอกนายแม่ว่า วันนั้นรวบรวมปัจจัยได้ยอดสามแสนบาท พวกเราจับไมค์บอกบุญต่อยอดบนศาลาวัดได้ปัจจัยเพิ่มเป็นเงินรวมทั้งหมด ห้าแสนห้าหมื่นห้าพันห้าร้อยห้าสิบห้าบาท แม่จำได้แล้วใช่มั้ย อยู่บนนู้นชวนบริวารหัวเราะดังๆแบบปลื้มๆว่า 555555 นะแม่นะ



ชุดสุดท้ายที่ผมใส่ให้แม่คือชุดขาว แล้วสวมทับด้วยเสื้อคลุมผ้าไหมสีสวยสดใส ที่ผมเลือกซื้อมาให้แม่ใส่ในวันที่แม่เป็นประธานกฐิน แม้ไม่ได้เก็บเสื้อคลุมผืนนั้นไว้ดู แต่ภาพของแม่ที่เป็นประธานกฐินตกค้างก็ยังชัดเจนในใจของลูกเสมอ

....คึดฮอดหลายเด้ออิแม...




Cr. ครูแก่นเครางาม

ความตายไม่เคยมีนิมิตบอกเหตุล่วงหน้า วันพรุ่งนี้หรือชาติหน้าสิ่งใดมาก่อนไม่มีใครทราบได้ เมื่อบุญใหญ่มาถึงให้รีบขวนขวายตั้งใจสั่งสมบุญสร้างบารมีเป็นเสบียงติดตัวกันไปในภพเบื้องหน้า ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้กระทำในสิ่งที่สำคัญยิ่งของชีวิต เพราะบุญคือเพื่อนแท้ในปรโลก ขอกราบอนุโมทนาบุญ เทพธิดาแม่เปลี่ยน ขันทองอาจารย์วรศักดิ์ ขันทอง และคณะทีมละครฟื้นฟูศีลธรรมโลกทุกท่านมา ณ โอกาสนี้  สาธุ




ท้ายที่สุดนี้ขอกราบเรียนเชิญทุกท่านร่วมสั่งสมบุญสร้างบารมี ร่วมพิธีทอดผ้า กฐินสามัคคี เป็นมหากาลทานจำกัดด้วยกาล  หลังออกพรรษาภายใน 1 เดือนทุก 1 ปี ทุกวัดทั่วประเทศทั่วโลกทอดได้เพียงครั้งเดียว จึงถือว่าเป็นบุญใหญ่มากๆ ฉะนั้นอย่าพลาดโอกาสบุญทอดกฐินสามัคคีในปีนี้ ใกล้วัดไหนก็ไปร่วมบุญกันที่วัดนั้น สำคัญเพื่อช่วยกันทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองคู่โลกสืบต่อไปตราบนานเท่านาน

วัดพระธรรมกาย จังหวัดปทุมธานี จัดให้มีพิธีทอดผ้ามหากฐินสามัคคี ในวันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562   จึงขอกราบเรียนเชิญทุกท่านร่วมพิธีโดยพร้อมเพรียงกัน รักและปรารถนาดีใครชวนกันมาร่วมพิธีบุญทอดผ้ามหากฐินสามัคคีกันนะคะ

ขอกราบอนุโมทนาบุญล่วงหน้ามา ณ โอกาสนี้ สาธุค่ะ

กราบขอบพระคุณกราบอนุโมทนาบุญต่อ

นักเขียนอิสระ : อ.วรศักดิ์  ขันทอง(ครูแก่นเครางาม)
ผู้ตรวจทาน     : อ.จงรักษ์ เชื้อแก้ว
ผู้ประสานงาน : I love dad

วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2562

วัดพระธรรมกายสอนลูกศิษย์อย่างไร...ทานบารมีมีความสำคัญยิ่ง (ตอนที่ 2)


หลวงพ่อตอบปัญหา


จากโอวาทตอนที่แล้ววัดพระธรรมกายสอนลูกศิษย์อย่างไร...ทานบารมีมีความสำคัญยิ่ง


ทานบารมีมีอุปการะต่อขันติบารมี


ขันติบารมี คือ ไม่หวั่นไหวต่อความยากลำบาก ไม่หวั่นไหวต่อเสียงสรรเสริญและนินทาคนที่นั่งสมาธิกันไม่ค่อยติด นั่งสมาธิไม่ได้ต่อเนื่อง บางทีก็เพราะถูกเขาค่อนขอดนินทา

บางครั้งเราตั้งใจทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม เมื่อมีคนไม่เห็นด้วย เขาก็ขัดขวางบางคนด่าสาดเสียเทเสียกันเลยทีเดียว ทำให้บางคนทนไม่ไหว ลุกออกมาตอบโต้กลับไปด้วยความรุนแรง ก็เลยไม่ได้นั่งสมาธิอีก ส่วนคนที่เห็นด้วย เขาก็สรรเสริญเยินยอจนสุดลิ่มทิ่มประตูเหมือนกัน แต่เพราะโดนด่ามานานหรือไม่เคยได้รับการสรรเสริญขนาดนั้นมาก่อนพอเขาสรรเสริญเข้าก็อดตัวลอยไม่ได้ อดหลงตัวเองไม่ได้ จนเป็นเหตุให้เลิกทำความดีได้อีกเช่นกัน

แต่ทว่า เนื่องจากทำทานไว้เป็นเสบียงเต็มที่ เรามีกินมีใช้สะดวกสบาย ใครนินทาว่าร้ายก็เฉย ๆ ทนได้ เพราะชีวิตเราก็ไม่ได้ไปขึ้นอยู่กับใคร ไม่ได้ไปขอใครกิน ไม่ได้ไปกู้หนี้ยืมสินใคร จึงรักษาใจให้สบายได้ง่าย ๆ ทำให้ไม่เลิกล้มการทำความดีกลางคัน

ขณะเดียวกัน เมื่อเรามีของเราเต็มที่อยู่แล้ว ใครจะยินยอมอย่างไรก็ไม่เป็นผล เพราะมันเต็มอิ่มอยู่ในใจแล้ว ไม่หิวคำชม จึงไม่เคลิ้มหลงคารมไปตามคำยกยอปอปั้นของใครง่าย ๆ มีแต่เดินหน้าทำความดีของเราเรื่อยไปจนกว่าจะสำเร็จให้จงได้ ดังนั้นทานบารมีจึงมีอุปการะให้เกิดขันติบารมีอย่างนี้



ทานบารมีมีอุปการะต่อสัจจบารมี 

คนมีสัจจะ พูดอย่างไรทำได้อย่างนั้นทำอย่างไรก็พูดอย่างนั้น เมื่อมีทานบารมีมาก เวลาจะทำบุญอะไร จะสร้างกุศลประณีตขนาดไหนก็ทำได้อย่างใจปรารถนา วาจาก็เป็นวาจาศักดิ์สิทธิ์ มีฤทธิ์มีเดชขึ้นมา เพราะสามารถพูดอย่างไรก็ทำได้อย่างนั้น ฤทธิ์ของทานบารมีช่วยเสริมให้มีสัจจบารมีอย่างนี้


ทานบารมีมีอุปการะต่ออธิษฐานบารมี

อธิษฐานบารมีเป็นเรื่องของความฉลาดในการตั้งผังตั้งโครงการให้บุญส่งผลในอนาคต ถ้าจะเปรียบก็เป็นสถาปนิกผู้ฉลาดในการออกแบบชีวิต ฉลาดชนิดมองทะลุภพชาติไปจนกว่าจะหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด แต่ถ้าไม่มีเสบียงหรือมีเสบียงไม่มากพอ จะอธิษฐานตั้งผังชีวิตเอาไว้อย่างไร ก็เดินหน้าต่อไปไม่ได้ เหมือนกับโครงการที่วางแผนไว้ละเอียดดีแล้ว แต่งบประมาณหมด ก็ไม่สามารถทำตามแผนต่อไปได้ ทานบารมีจึงมีอุปการะต่ออธิษฐานบารมี ถ้ามีทานที่ทำไว้ดีแล้วจะวางแผนไว้อย่างไรทำได้ตามแผนหมด



ทานบารมีมีอุปการะต่อเมตตาบารมี

เมตตาบารมี มีความปรารถนาดีต่อเพื่อนมนุษย์ เห็นใครประสบทุกข์ เห็นใครน่าสนับสนุนแม้รักใคร่เอ็นดูปรารถนาดีสารพัด อยากให้ใครต่อใครเขามีความสุข ให้เขาได้ปฏิบัติธรรมกันทั้งโลก แต่ถ้าไม่มีทานบารมีสนับสนุนก็ทำไม่ได้ ทำได้แต่ยืนมองดูเขาด้วยความสงสารแต่ไม่รู้จะสงเคราะห์ช่วยเหลือเขาอย่างไร

ยกตัวอย่างเช่น ประเทศเนปาลซึ่งเป็นต้นกำเนิดพระพุทธศาสนา แต่ก็ชะงักงันเรื่องพระพุทธศาสนามานานเกือบพันปีแล้ว ทำให้การบวชขาดตอนไปนานทีเดียว ชาวพุทธเราได้แสดงความกตัญญูต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยการไปจัดโครงการบวชสามเณรหลายครั้ง เพื่อช่วยกันฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในดินแดนต้นกำเนิดให้กลับมามีแสงสว่างขึ้นมาใหม่อีกหน ซึ่งได้รับการตอบรับจากชาวเนปาลอย่างดี การฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในดินแดนพุทธภูมิเช่นนี้ ก็ต้องอาศัยทานบารมีเป็นพื้นฐานอีกเช่นกัน

ทานบารมีเป็นอุปการะให้เกิดทานบารมี

บุญใหม่ที่ทำในวันนี้จะกลายเป็นบุญเก่าของวันพรุ่งนี้ บุญใหม่ของเราปีนี้ก็กลายเป็นบุญเก่าของเราในปีหน้า ขณะนี้ที่เรามีทุกอย่างพร้อมบริบูรณ์ ก็เป็นผลของทานบารมีที่เราทำไว้ตั้งแต่ชาติที่แล้ว ๆ มา ปีที่แล้ว ๆ มา

การที่เรามีโอกาสได้สร้างทานบารมีเพื่อสนับสนุนบารมีต่าง ๆ ทั้ง 9 บารมี แท้จริงแล้วเกิดจากทานบารมีต้นทุนเดิมของเรา เพราะฉะนั้นทานบารมีก็ส่งเสริมให้เกิดทานบารมีครั้งใหม่ขึ้นมาทับทวีไม่ขาดสายไม่ขาดตอน



บารมีทั้ง 9 มีอุปการะเกื้อหนุนให้เกิดอุเบกขาบารมี

โบราณจารย์ท่านชี้ให้เห็นว่า บารมีทั้ง 9 ประการนี้เต็มเปี่ยมเมื่อไร อุเบกขาบารมีจึงจะเกิดขึ้นได้ ก็หมายความว่าอุเบกขาบารมี เป็นผลที่ได้จากการบำเพ็ญบารมีทั้ง 9 มาก่อนนั่นเอง เพราะเมื่อใดที่อุเบกขาบารมีพร้อมแล้ว ก็มีความพร้อมที่จะตรัสรู้ธรรมขึ้นมาทันที

ดังนั้น ในพระชาติที่บำเพ็ญบารมีเป็นพระเวสสันดร จึงได้ชื่อว่าเป็นมหาชาติ คือ บำเพ็ญบารมีทุกอย่างเต็มบริบูรณ์เรียบร้อย พร้อมที่จะปฏิบัติมรรคมีองค์ 8 เพื่อการตรัสรู้

พระชาติสุดท้าย เป็นชาติที่พระโพธิสัตว์เต็มเปี่ยมทุกบารมี พร้อมแล้วที่จะตรัสรู้ ตั้งแต่แรกประสูติเจ้าชายสิทธัตถะย่างพระบาทได้ 7 ก้าว แล้วเปล่งอาสภิวาจาว่า
อคฺโคหมสฺมิ  โลกสฺส  เชฏฺโฐหมสฺมิ
โลกสฺส  เสฏฺโฐหมสฺมิ  โลกสฺส  อยมนฺติมา
ชาติ  นตฺถิทานิ  ปุนพฺภโวติ.
เราเป็นผู้เลิศของโลก  เราเป็นผู้ใหญ่ในโลก
เราเป็นผู้ประเสริฐสุดในโลก  ชาตินี้
เป็นชาติสุดท้าย บัดนี้การเกิดอีกมิได้มี.

เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะสละราชบัลลังก์ออกบวช ทรงมุ่งหน้าไปทำงานค้นคว้าหาวิธีดับทุกข์ กำจัดกิเลส จนกระทั่งได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

จากการเชื่อมโยงให้เห็นว่าทานบารมี มีความสำคัญและมีความสัมพันธ์ต่อการสร้างบารมีประการอื่น ๆ ก็หวังว่าคงพอจะได้แนวทางของวัดพระธรรมกายที่ใช้การสร้างบารมี 10 ทัศ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นแบบแผนการดำเนินชีวิต จากนั้นก็นำมาสั่งสอนอบรมให้พอเหมาะกับ เพศ วัย ตามสถานภาพ ตามฐานะความเป็นอยู่ของประชาชนแต่ละกลุ่มที่เข้าวัดพระธรรมกาย

ดังนั้น การที่วัดพระธรรมกายเน้นชวนคนทำบุญก็ตาม สร้างศาสนสถานใหญ่โตก็ตาม จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการสร้างทานบารมี ไว้เป็นเสบียงติดตัวไปข้ามภพข้ามชาติ เพราะทานบารมีนั้นมีอุปการะต่อบารมีทั้ง 10 ทัศ ตามที่โบราณาจารย์ท่านให้ข้อคิดไว้ดีแล้ว

วัดพระธรรมกายได้อาศัยหลักการสร้างบารมี 10 ทัศ มาเป็นแนวทางในการสั่งสอนอบรมประชาชนที่มาวัด และเพียรพยายามสืบทอดคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อรักษาพระพุทธศาสนาไว้ตามแนวทางของบารมี 10 ทัศ ซึ่งเป็นแนวทางดั้งเดิมในการบำเพ็ญบารมีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยประการฉะนี้

โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว(คุณครูไม่เล็ก)
หนังสือวารสารอยู่ในบุญ


ชีวิตเป็นของน้อยหายใจเข้าไม่หายใจออกก็ตาย พรุ่งนี้หรือชาติหน้าสิ่งไหนมาก่อนก็ไม่มีใครรู้ได้ จงดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาทเถิด ทุกวันหมั่นเข้าวัดบำเพ็ญบุญ ทำทาน รักษาศีลและเจริญสมาธิภาวนาให้เป็นนิจ โดยเฉพาะทานบารมีต้องทำให้ยิ่งชีวิตเพราะทานบารมีคือต้นทางที่จะทำให้ถึงพร้อมด้วยความบริสุทธิ์บริบูรณ์ อันเกิดจากสามารถปราบมารปหานกิเลสให้สิ้นเชื้อไม่เหลือเศษ เข้าถึงความสุขอันเป็นบรมสุข คือ พระนิพพาน ดังพุทธศาสนสุภาษิตความว่า

เสฏฺฐนฺทโท  เสฏฺฐมุเปติ  ฐานํ.
ผู้ให้สิ่งประเสริฐ  ย่อมถึงฐานะที่ประเสริฐ.
ที่มา : อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต (องฺ. ปญฺจก. 22/56)

  

ลูกศิษย์วัดพระธรรมกายทั่วโลกมีเป้าหมายชีวิตของการเกิดมา คือ 
ทำพระนิพพานให้แจ้ง แสวงบุญ สร้างบารมี   
ขอกราบอนุโมทนาบุญ สาธุค่ะ





กราบขอบพระคุณที่มาความสมบูรณ์ของบลอค :

วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2562

วัดพระธรรมกายสอนลูกศิษย์อย่างไร...ทานบารมีสำคัญยิ่ง



หลวงพ่อตอบปัญหา


วันนี้ขอนำโอวาทหลวงพ่อทัตตชีโว(คุณครูไม่เล็ก) เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ที่ถูกต้องดีงามมีความสุขและปลอดภัย ในสังสารวัฏมาฝากทุกท่าน

ถาม   

คำสอนของวัดพระธรรมกายถูกต้องตามแนวทางคำสอนของพระพุทธศาสนาหรือไม่ ? 


หลวงพ่อตอบ

วัดพระธรรมกายเป็นวัดหนึ่งในบรรดาวัดทั้งหลายในบวรพระพุทธศาสนา มีพระภิกษุผู้บวชในร่มผ้ากาสาวพัสตร์จำนวนหลายพันรูป ทุกรูปบวชตามธรรมวินัยอย่างถูกต้อง ดำรงตนอยู่ในศีล 227 ข้อ เหมือนกับพระภิกษุทุกรูปในนิกายเถรวาท ดังนั้นโดยธรรมวินัยแล้วพระทุกรูปก็คือ พุทธสาวกที่บวชเข้ามาอย่างถูกต้องตามธรรมวินัย เป็นผู้ศึกษาและปฏิบัติตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ตรัสรู้โดยชอบด้วยพระองค์เอง มีพระบรมศาสดาองค์เดียวกันกับชาวพุทธทั่วโลก ทั้งที่เป็นชาวพุทธเถรวาทและชาวพุทธทุกนิกาย 

ชาวพุทธทั้งโลกเคารพนับถือพระบรมศาสดาอย่างไร วัดพระธรรมกายก็สอนให้เคารพนับถืออย่างนั้น




พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นบุคคลผู้รู้แจ้งความจริงของโลกและชีวิตว่าเป็นทุกข์ในโลกในแต่ละยุคจึงมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นพระองค์แรกที่เอาชนะทุกข์ด้วยการกำจัดกิเลสอันเป็นต้นเหตุแห่งทุกข์ได้สิ้นเชื้อไม่เหลือเศษไม่กลับมาเวียนว่ายตายเกิดในโลกนี้ ในภพสามนี้อีกต่อไป แล้วก็นำความรู้ที่ใช้ดับทุกข์นั้นมาสอนให้ชาวโลกได้รู้ความจริงและปฏิบัติตาม


พระภิกษุสงฆ์ในฐานะพุทธสาวกก็ได้ศึกษาและปฏิบัติตามพระบรมครูเพื่อเป้าหมายเดียวกัน นั้นคือวันหนึ่งจะได้เข้าถึงธรรมที่พระพุทธองค์ตรัสรู้บ้าง จะได้เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยความบริสุทธิ์บริบูรณ์ อันเกิดจากสามารถปราบมารปหานกิเลสให้สิ้นเชื้อไม่เหลือเศษ เข้าถึงความสุขอันเป็นบรมสุขคือพระนิพพาน



พระภิกษุสงฆ์เมื่อปฏิบัติธรรมแล้วก็ทำหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนา นำพระธรรมคำสอนของพระศาสดามาถ่ายทอดแผ่ขยายให้สาธุชนได้ศึกษาและปฏิบัติตามรอยบาทของพระบรมศาสดาผู้เป็นต้นบุญต้นแบบของการสร้างบารมี 10 ทัศ ซึ่งเป็นแนวทางการดำเนินชีวิตที่สมบูรณ์ 

ดังนั้นหากจะตั้งคำถามอย่างเป็นกลาง ๆ ขึ้นก่อนว่า แนวทางดั้งเดิมของพระพุทธศาสนาคืออะไร ก็ต้องตอบว่า การสร้างบารมี 10 ทัศคือ แนวทางคำสอนดั้งเดิมของพระพุทธศาสนา เพราะพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ตรัสรู้ได้ด้วยการฝึกฝนอบรมตนเองและดำเนินชีวิตมาตามแนวทางการสร้างบารมี 10 ทัศนั้นเอง

คำสอนที่วัดพระธรรมกายนำมาสั่งสอนแนะนำอบรมถ่ายทอดให้สาธุชนทั้งหลาย ประพฤติปฏิบัติตามก็คือ การสร้างบารมี 10 ทัศ เช่นกัน 

เหตุผลที่วัดเลือกบารมี 10 ทัศ มาเป็นหลักคำสอนก็เพราะว่า บารมี 10 ทัศ เป็นแนวทางการดำเนินชีวิตของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอรหันตเจ้าทั้งปวง เริ่มตั้งแต่สมัยที่เป็นมนุษย์ธรรมดาแล้วสั่งสมบุญกุศลเรื่อยมาในแต่ละภพชาติที่เกิดมาเป็นมนุษย์ จนกระทั่งบารมีเต็มเปี่ยมได้บรรลุธรรมเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นพระอรหันต์ ตามที่ตั้งความปรารถนาเอาไว้ด้วยดีทุกประการ



บารมี 10 ทัศ ประกอบด้วยการฝึกฝนทำความดี 10 ประการอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งกลายเป็นนิสัยเอาชีวิตเป็นเดิมพันในการทำความดี  ได้แก่ 1. ทานบารมี 2. ศีลบารมี  
3. เนกขัมมบารมี  4. ปัญญาบารมี 5. วิริยบารมี 6. ขันติบารมี 7. สัจจบารมี 
8.อธิษฐานบารมี 9. เมตตาบารมี 10. อุเบกขาบารมี

ในการบำเพ็ญบารมีนั้น สิ่งสำคัญก็คือต้องทำจริง หมายความว่าไม่ใช่ทำแค่ครั้งสองครั้ง  ทำไม่กี่ครั้งในรอบปี หรือทำเพียงไม่กี่ครั้งในชาติหนึ่ง แต่การสร้างบารมีคือการตั้งใจมั่นทำความดีตลอดชีวิต ไม่มีทางเปลี่ยนใจ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด ก็ยังมั่นคงมุ่งตรงต่อความดี มุ่งตรงต่อหนทางพระนิพพานอย่างไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

คุณสมบัตินักสร้างบารมี คือ เป็นผู้มีใจตรง เป็นคนจริง เป็นคนตรงเยี่ยงนี้ ไม่ว่าเขาคนนั้นจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ เป็นนักเรียน นักศึกษา เป็นแม่บ้าน คนทำงาน เป็นเศรษฐี เป็นยาจก เป็นผู้ชรา เป็นคฤหัสถ์หรือบรรพชิต ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะหรือสถานะใดก็ตาม ก็จะมีใจที่เหมือนกันอย่างนี้




ถาม

ทำไมถึงเน้นแต่การชวนคนทำบุญอย่างเดียว ?

หลวงพ่อตอบ

ในการสร้างบารมีนั้นเริ่มด้วยทานบารมีเพราะว่าทานบารมีเป็นเสบียงสำคัญ ถ้าขาดทานบารมีแล้ว บารมีอื่น ๆ แทบจะทำไม่ได้เลย




ในทางโลก จอมจักรพรรดินโปเลียน ผู้นำกองทัพฝรั่งเศส กล่าวไว้ว่า กองทัพต้องเดินด้วยท้อง หมายความว่า กองทัพต้องมีเสบียงซึ่งอยู่ในรูปแบบต่าง ๆ แต่ไม่ว่าจะมีเสบียงกี่รูปแบบก็ตาม สรุปได้ว่าจะต้องมีทรัพย์สมบัติเป็นเสบียง ไม่อย่างนั้นกองทัพก็ออกรบไม่ได้

แม้กองทัพธรรมก็เช่นกัน กองทัพธรรมจะปราบกิเลส ปราบมาร ก็ต้องมีเสบียงรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งเสบียงต่าง ๆ หรือทรัพย์สมบัติที่จะติดตามเราไปได้ในแต่ละภพชาตินั้น เกิดขึ้นได้ด้วยการตัดความตระหนี่ (กิเลสประการหนึ่ง) ออกจากใจ แล้วนำทรัพย์ออกมาบริจาคทาน เปลี่ยนทรัพย์สมบัติหยาบให้เป็นทรัพย์ละเอียด คือ บุญ หากยังตัดความตระหนี่ไม่ได้ สมบัติที่เรามีอยู่ก็จะใช้ได้ในชาตินี้เพียงชาติเดียวเท่านั้น


เพราะฉะนั้น เมื่อจะสั่งสมบุญสร้างบารมีเพื่อทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน ก็จะต้องสร้างหลักประกันให้ตนเอง เพื่อให้สามารถสร้างบารมีได้ตลอดรอดฝั่ง หลักประกันประการแรก คือต้องมีเสบียงไว้ให้พร้อม จึงต้องสร้างทานบารมีเป็นเบื้องต้น

สิ่งที่ต้องตระหนักให้มากก็คือ การสร้างบารมีทำได้เฉพาะอาศัยกายมนุษย์ ดังนั้นจึงต้องเกิดเป็นคนเท่านั้น เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานสร้างบารมีไม่ได้ เกิดเป็นเทวดาก็ทำไม่ได้ ได้แต่เสวยบุญเก่าที่ทำไว้ 

โบราณจารย์ท่านขยายความต่อไปว่า ทำไมทานบารมีจึงเป็นบารมีประการแรกที่ต้องสั่งสม ที่ต้องทำให้มาก เพราะทานบารมีนั้นมีอุปการะต่อบารมีประการอื่น ๆ ซึ่งขยายความได้ดังนี้


ทานบารมีมีอุปการะต่อศีลบารมี

การสร้างบารมีทำได้เฉพาะอาศัยกายมนุษย์นี้ ถ้าเกิดเป็นสัตว์โลกอย่างอื่นทำไม่ได้เป็นสัตว์เดรัจฉานก็สร้างบารมีไม่ได้ แม้ไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์ เป็นเทวดา เป็นพรหม ก็สร้างบารมีไม่ได้ สุคติโลกสวรรค์เป็นโลกแห่งการเสวยผลบุญ เป็นการยากที่จะสั่งสมบุญสร้างบารมีเพิ่ม และสิ่งที่จะเป็นหลักประกันว่าจะกลับมาเกิดเป็นคนได้อีกมีเพียงประการเดียวก็คือ เมื่อยามที่เป็นมนุษย์รักษาศีล 5 ได้เป็นปกติ

ผลแห่งทานบารมีที่สร้างไว้ทำให้ไม่ขาดเสบียงชีวิต ไม่ยากจน ไม่เป็นหนี้ ถ้ายากจนขัดสนเสียแล้ว การจะรักษาศีล 5 ให้บริสุทธิ์นับว่าทำได้ยาก แม้ว่าอยากจะประกอบสัมมาอาชีวะเพื่อว่าศีลจะได้บริบูรณ์ก็ทำไม่ได้เพราะขาดเสบียง แต่ถ้ามีเสบียงเตรียมไว้พร้อมก็ง่ายที่จะเลือกประกอบสัมมาอาชีวะ แม้จะคิดลงทุนทำอะไรต่อก็ทำได้ง่าย กำไรก็หาได้ง่ายเพราะมีทรัพย์ลงทุน


ทานบารมีมีอุปการะต่อเนกขัมมบารมี

แม้ได้เกิดเป็นมนุษย์แล้วก็ยังแบกภาระต่าง ๆ มากมาย การจะแสวงหาทางบรรลุธรรม แสวงหาหนทางพ้นทุกข์เป็นไปได้ยาก การออกบวชบำเพ็ญเนกขัมมะ ดำรงเพศภาวะนักบวช สละสลัดภาระทางโลกลงได้ ชีวิตจึงจะเป็นอิสระและสงบพอที่จะบำเพ็ญสมาธิภาวนาเพื่อการบรรลุธรรม

แม้การออกบวช ทานบารมีก็มีส่วนสนับสนุน เพราะหากยังมีหนี้สิน ยังมีภาระทางบ้านอยู่ก็ออกบวชไม่ได้ แต่ผลแห่งทานบารมีที่สั่งสมข้ามชาติมาไว้ดีแล้ว ทำให้มีทรัพย์มีเสบียงสำหรับดูแลคนทางบ้าน หรืออย่างน้อยก็ไม่มีหนี้ จึงจะออกบวชได้อย่างสงบ

บางท่านถึงแม้การออกบวชเต็มที่ยังทำไม่ได้ เพราะมีภาระต้องดูแลบิดามารดา ดูแลครอบครัว การออกบวชเป็นช่วง ๆ เช่น ช่วงเข้าพรรษา หรือการตั้งใจรักษาศีล 8  ในวันพระก็เป็นการสั่งสมอุปนิสัยบำเพ็ญเนกขัมมะเอาไว้ให้มั่นในใจ แต่ทว่าแม้การออกบวชเป็นช่วง ๆ ก็ยังต้องอาศัยทานบารมีก่อนบวชไว้อุปการะครอบครัวในระหว่างที่ออกบวชช่วงสั้น ๆ เช่นกัน


ทานบารมีมีอุปการะต่อปัญญาบารมี

ปัญญาบารมีขั้นต้นนั้น คือการแสวงหาครูดีที่สามารถแจกแจงได้ว่า ความดี ความชั่วตัดสินอย่างไรในทุกแง่ทุกมุม การออกตระเวนหาครูดีอย่างนี้ยิ่งมีความจำเป็นว่าจะต้องมีเสบียง เพราะทุกก้าวย่าง ทุกลมหายใจของเรามีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นทั้งนั้น ไหนจะค่าเดินทาง ไหนจะค่าอาหารการกินระหว่างทาง ต้องใช้เสบียงตลอดเส้นทาง 

แม้การศึกษาทางโลก ใครเป็นคุณพ่อคุณแม่คงจะรู้ดีว่า ถึงเวลาเปิดเทอมทีไร ค่าใช้จ่ายเพื่อการศึกษาของลูกมารอแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นทางโลกหรือทางธรรม การศึกษาจึงจำเป็นต้องใช้เสบียงเช่นกัน ซึ่งเสบียงนั้นเราเก็บสั่งสมไว้ข้ามภพข้ามชาติมาด้วยการทำทานบารมีนั่นเอง


ทานบารมีมีอุปการะต่อวิริยบารมี

วิริยบารมีนั้นหนักไปในเรื่องของการทำภาวนาในที่สงบ ซึ่งการทำภาวนาจะให้ก้าวหน้าได้ดี จำเป็นต้องอยู่ในสถานที่สัปปายะ คือสถานที่ที่เป็นที่สบายสำหรับการเจริญภาวนา

ความสะดวกสบายเรื่องสถานที่นั้น มีประการหนึ่งที่สำคัญ คืออากาศต้องเย็นสบายแบบธรรมชาติ ในอดีตเมื่อถึงฤดูออกพรรษาและรับกฐินแล้ว พระภิกษุสงฆ์ท่านจะแบกกลด สะพายย่ามตามหลังอุปัชฌาย์อาจารย์เดินธุดงค์เข้าป่ากันไป เพื่อจะไปหาที่สงบ ๆ เย็น ๆ สำหรับทำภาวนา นั้นคือการบำเพ็ญวิริยบารมี

ด้วยเหตุนี้เพื่อสนับสนุนการบำเพ็ญวิริยบารมีอันมีส่วนให้การเจริญภาวนาก้าวหน้าได้ดี วัดพระธรรมกายจึงให้มีการปฏิบัติธรรมระยะสั้น ๆ ให้สาธุชนเลือกตามความเหมาะสมของแต่ละคน บางรุ่น 3 วัน บางรุ่นก็ 7 วันหรือ 10 วัน โดยเลือกจัดคอร์สปฏิบัติธรรมในทำเลสถานที่ที่อากาศเย็นสบายและสงบ เช่น ที่เขาใหญ่ ภูเรือ พนาวัฒน์ เป็นต้น

แต่การบำเพ็ญเพียรภาวนาจะใกล้หรือไกลก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเป็นธรรมดา ถ้าใครทำทานบารมีมาดีพอ เสบียงเราก็เพียงพอ จะไปบำเพ็ญเพียรภาวนาในสถานที่สัปปายะ จะไปปฏิบัติธรรมนานเป็นเดือน หลาย ๆ เดือน หรือจะนานเป็นปีก็ทำได้ เพราะอะไร เพราะว่าไม่ต้องห่วงเรื่องค่าใช้จ่าย ไม่ต้องห่วงถึงเรื่องการประกอบอาชีพ และไม่ต้องห่วงเรื่องการเงินนี้เป็นฤทธาอานุภาพของการสร้างทานบารมีเอาไว้เสริมการบำเพ็ญวิริยบารมี



โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว(คุณครูไม่เล็ก)
หนังสือวารสารอยู่ในบุญ 


จากที่ได้อ่านได้ศึกษาตามข้างต้นทำให้เห็นว่าทุกบารมีล้วนต้องมีทานบารมีมาอุปการะทั้งสิ้น เพราะถ้าขาดทานบารมีสนับสนุนแล้ว การที่เราจะทำความดีอย่างอื่นเป็นอันยากยิ่ง ฉะนั้นชาตินี้เราเกิดมาโชคดีได้เกิดมาเจอพระพุทธศาสนา ได้มีคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้เราได้ศึกษาได้เรียนรู้ในเรื่องความจริงของชีวิต เกิดมาได้พบเนื้อนาบุญอันเลิศคือพระภิกษุสงฆ์ แม้เราจะเกิดมาไม่ทันพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นเนื้อนาบุญอันเลิศ แต่เราก็ได้มีบุญได้พบพระภิกษุสงฆ์ ผู้มีศีลถึง 227 ข้อทายาทผู้สืบทอดรักษาคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 

รักษาความโชคดีของทุกท่านด้วยการ หมั่นเข้าวัดบำเพ็ญบุญทำทาน รักษาศีลและเจริญสมาธิภาวนาให้เป็นนิจ เป็นการสั่งสมเสบียงไว้ข้ามภพข้ามชาติ เกิดภพชาติต่อไปเราจะเป็นผู้อุดมด้วยรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติและคุณสมบัติ และจะวนเวียนอยู่ในภูมิมนุษย์และเทวดา เกื้อหนุนให้เราบำเพ็ญบารมีทั้ง 10 ทัศ อย่างสะดวกสำเร็จมรรคผลนิพพานได้โดยง่าย

 ติดตามอ่าน ทานบารมี...มีอุปการะยิ่งต่อบารมีทั้ง 10 ทัศต่อตอนที่ 2 ต่อที่ลิงค์นี้


ลูกศิษย์วัดพระธรรมกายทั่วโลกมีเป้าหมายชีวิตของการเกิดมา คือ 
ทำพระนิพพานให้แจ้ง แสวงบุญ สร้างบารมี   
ขอกราบอนุโมทนาบุญ สาธุค่ะ









กราบขอบพระคุณที่มาความสมบูรณ์ของบลอค :

ประโยชน์ที่ได้รับ...จากการทำสมาธิ

    สมาธิก่อให้เกิดประโยชน์อย่างไรบ้าง บางคนหากไม่ได้สังเกตก็อาจไม่ทันรู้ตัวว่าความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับตัวเองนั้นเป็นผลมาจากสติปั...