วันจันทร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2562

มนุษย์ขาดศีล 5 มีผลร้ายแรงต่อโลกเช่นไร ?





จากคลิปข่าวข้างต้นที่เกิดเป็นข่าวน่าสลดต่อผู้ได้เห็น เหตุ ชาวโลกส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าตนเองเกิดมาพร้อมความไม่รู้ จึงดำเนินชีวิตด้วยความประมาท ขาดหิริโอตตัปปะ คือ ความเกรงกลัวต่อบาป ดำเนินชีวิตอย่างผิดศีลผิดธรรม 

ด้วยความที่ผิดศีลข้อที่ 2 คือเกิดความโลภทำเหล้าปลอมขึ้นมาขายเองและผิดศีลข้อที่ 5 คือการดื่มสุราเมรัยของมึนเมาเข้าไป จากข่าว จึงทำให้ได้เกิดเรื่องน่าสลดใจมีคนดื่มเหล้าถึงแก่ความตายเกิดขึ้นตามลิงค์ข่าว

หายนะของมนุษย์ที่ขาดซึ่งการไม่มีศีลธรรมอันเป็นพื้นฐานที่มนุษย์พึงมีสิ่งนั้นก็คือ ศีล 5 นั่นเอง และทุกวันนี้จากที่ได้อ่านข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์การฆ่ากันตายรายวันก็มีให้เห็นทุกวันจนกลายเป็นเรื่องปกติ การผิดศีลข้อที่ 3 คือการไม่ซื่อสัตย์ต่อคู่ครองทำให้ปัญหาครอบครัวหย่าร้าง ปัญหาลูกหลานโดนกระทำต่างๆ การใช้คำพูดส่อเสียดพูดเท็จทำให้เกิดการเข้าใจผิดต่อผู้มีศีลอันมีผลให้เกิดการใช้วาจาจาบจ้วงผู้มีศีลทำให้สร้างบาปกรรมอย่างมากมาย



การกระทำต่างๆนี้ล้วนมีผลมาจากมนุษย์ห่างไกลศีลธรรม ขาดการให้ความสำคัญพาบุตรหลานและคนที่เรารักเข้าวัดไปกราบขอความรู้จากพระสงฆ์ผู้ทรงภูมิรู้ภูมิธรรม ซึ่งมีหน้าที่ศึกษาคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วนำมาถ่ายทอดให้พวกเราได้เรียนรู้แล้วนำไปประพฤติปฏิบัติตาม เพื่อเราทุกคนจะได้ดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขและปลอดภัยในแต่ละวัน

ขอนำคำทำนายกว่า 2500 ปี ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  สิ่งที่พระองค์ทรงทำนายกำลังเกิดขึ้นแล้วในประเทศไทย ณ ขณะนี้  




ครั้งหนึ่งพระเจ้าปเสนทิโกศล ผู้ครองกรุงสาวัตถี ได้เสด็จเข้าสู่นิทรารมย์ในราตรีกาล ครั้นล่วงปัจฉิมยามใกล้รุ่ง ได้ทอดพระเนตรเห็น พระสุบินนิมิตอันใหญ่หลวงถึง 16 ประการ อันเป็นพระสุบินที่แปลกประหลาด จึงทรงตกพระทัยตื่นบรรทมและครั้นรุ่งเช้า ก็ได้ให้พวกพราหมณ์ปุโรหิตประจำราชสำนักทำนาย

พวกพราหมณ์ปุโรหิต ก็พากันทำนายว่าเป็นพระสุบินที่ร้ายและว่าพระองค์จะต้องประสบภัยอันตราย 3 ประการ ไม่เสียราชทรัพย์ ก็จะมีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน หรือไม่ก็ต้องสวรรคต อย่างใดอย่างหนึ่ง และแนะให้พระองค์ทำพิธีบูชายัญสัตว์ เพื่อสะเดาะเคราะห์ เมื่อพระนางมัลลิกา พระมเหสีทราบเรื่องเข้า จึงทูลให้ไปขอคำแนะนำจากพระพุทธเจ้า ซึ่งพระองค์ก็ได้ทรงทำนายว่า เหตุร้ายนั้นจะมีแน่นอน เพียงแต่มิใช่เกิดแก่พระเจ้าปเสนทิโกศล หรือแว่นแคว้นของพระองค์ แต่เหตุร้ายเหล่านี้จะเกิดแก่สัตว์โลกทั่ว ๆ ไป
และแก่พระศาสนาของพระพุทธองค์ในภายภาคหน้า เมื่อล่วงเลยพุทธกาลไปแล้ว 2500 ปี หลังจากนั้น ต้องรอยุคของพระศรีอาริยเมตไตรย์ พระพุทธเจ้าองค์ต่อไปเสด็จมาโปรดสัตว์ ความฝันของพระเจ้าปเสนทิโกศล และคำทำนายของพระพุทธเจ้าทั้ง  16 ประการ ประกอบด้วย

1.ทรงฝันว่า มีโคตัวผู้สีเหมือนดอกอัญชัญ 4 ตัว ต่างคิดจะชนกัน ก็พากันวิ่งมาสู่ท้อง พระลานหลวงจาก 4 ทิศ ฝูงชนต่างรอดู โคทั้งสี่ก็ส่งเสียงคำรามลั่น แต่แล้วต่างก็ถอยออกไป ไม่ชนกัน


พระพุทธเจ้าได้ทรงทำนายว่า ในอนาคตในชั่วศาสนาของพระองค์ เมื่อโลกหมุน ไปถึงจุดที่เสื่อมลง มนุษย์ไม่ตั้งอยู่ในศีลในธรรม ฝนฟ้าจักแล้ว ทุพภิกขภัยจักเกิดขึ้น คล้ายเมฆตั้งเค้าจะมีฝน มีเสียงคำรามกระหึ่ม แต่แล้วก็ไม่ตกกลับเลยหายไปเหมือนโคตั้งท่าจะชนกัน แต่ไม่ชนกันฉะนั้น อ่านต่อเพิ่ม



ถึงเวลาแล้วหรือยังคะที่เราทุกคนจักให้โอกาสตนเองมาศึกษาธรรมะจากพระสงฆ์ผู้ทรงภูมิรู้ภูมิธรรม แล้วนำสิ่งดีๆที่เราได้รับมาสู่ใจของเรา เพื่อตัวเราและคนที่เรารัก สังคมประเทศชาติจะได้ดำรงค์อยู่ร่วมกันอย่างปกติสุขไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน สภาวะดินฟ้าอากาศไม่เป็นภัยแก่มวลมนุษย์ชาติ

ความรู้ง่ายๆและเป็นพื้นฐานของมนุษย์พึงมีเป็นปกตินั่นก็คือ ศีล 5 นั่นเอง มาศึกษาดูว่าศีล 5 มีอะไรบ้างปฏิบัติแล้วเราจะได้รับผลดีอย่างไร

ศีล 5 ศีลห้าคืออะไร หมายถึงอะไร

ศีล หมายถึง ความตั้งใจที่งดเว้นจากความชั่ว ความทุจริต และสิ่งที่ไม่ดีทุกประการ ดังที่พระสารีบุตรได้กล่าวไว้ในคัมภีร์ปฏิสัมภิทามรรคว่า “ศีล คือ เจตนา ความตั้งใจ ที่จะงดเว้นจากกายทุจริต 3 (คือ ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ประพฤติผิดในกาม) และวจีทุจริต 4 (คือ ไม่พูดเท็จ ไม่พูดคำหยาบ ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดเพ้อเจ้อ)”


ศีล 5 คืออะไร ?

ศีล คือ “ เจตนา” ความตั้งใจ ที่จะงดเว้นจากกายทุจริต 3 (ไม่ฆ่าสัตว์, ไม่ลักทรัพย์, ไม่ประพฤติ ผิดในกาม) และวจีทุจริต 4 (ไม่พูดเท็จ, ไม่พูดคำหยาบ, ไม่พูดส่อเสียด, ไม่พูดเพ้อเจ้อ)
ศีล คือ “ เจตสิก” หมายถึงการงดเว้นจากมโนทุจริต 3 (ความโลภอยากได้ของผู้อื่น, มีจิตคิดพยาบาท, มีความเห็นผิด)
ศีล คือ ความสำรวมระวัง ปิดกั้นความชั่ว
ศีล คือ การไม่ล่วงละเมิดข้อห้าม

ศีล 5 คือ มนุษยธรรม หรือธรรมที่ทำให้เป็นมนุษย์
ศีล 5 เป็นสิ่งที่มนุษย์ช่วยกันบัญญัติขึ้นมา เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข จากสามัญสำนึกที่รู้ว่า เมื่อเรามีความรักตนเอง ต้องการความสุข ความปลอดภัยในชีวิต คนอื่นก็ย่อมมีความรู้สึกเช่นเดียวกับเรา ด้วยเหตุนี้แม้ในยุคที่ไม่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาบังเกิดขึ้น ศีล 5 ก็มีอยู่แล้ว

แม้ศีลจะมีหลายความหมาย แต่ที่สำคัญที่สุดคือ เจตนา ดังนั้น จึงอาจกล่าวได้ว่า

ศีล คือ ความตั้งใจ ที่จะงดเว้นจากความชั่ว ความทุจริต สิ่งที่ไม่ดีทุกประการ

 มนุษย์ แปลว่า สัตว์ที่มีจิตใจสูง สัตว์ที่รู้จักใช้เหตุผล

มนุษย์มีเหตุ  มีผลรู้จักยับยั้งชั่งใจ แต่สัตว์ไม่มีสิ่งนี้เมื่อใดที่มนุษย์มีศีล 5 ครบ ความเป็นมนุษย์ก็สมบูรณ์ กายก็เป็นปกติ วาจาก็ปกติ ใจก็ปกติ เมื่อไรศีล 5 ขาด ความเป็นมนุษย์ก็ลดลง
      


ศีล 5 จึงเป็นเครื่องบ่งชี้ศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์
โดยแต่ละข้อสามารถแบ่งแยกความเป็นมนุษย์กับสัตว์ได้ดังนี้




 ข้อ 1  ตั้งใจงดเว้นจากการฆ่าสัตว์

ตามปกติมนุษย์เราไม่ฆ่ากัน ต่างจากพวกสัตว์ เช่น เสือ สิงโต เวลาหิวก็ไล่ล่าสัตว์อื่นกินทันที ศีลข้อ 1 จึงแบ่งแยกความแตกต่างระหว่างคนกับสัตว์ได้อย่างชัดเจน





ข้อ 2 ตั้งใจงดเว้นจากการลักขโมย

ธรรมชาติของมนุษย์จะไม่ลักขโมยทรัพย์สินของใครเพราะมนุษย์มีความรู้เรื่อง กรรมสิทธิ์ ว่านี่ของเขา นี่ของเรา แต่สัตว์ไม่รู้ เช่นเวลาสุนัขเห็นแมวกินปลาอยู่  ถ้าอยากได้มันจะเข้าไปแย่งเลย ดังนั้นถ้าใครลักขโมย จี้ปล้นทรัพย์สินของคนอื่น ก็แสดงว่าขณะนั้นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของเขาสูญเสียไปแล้ว




ข้อ 3 ตั้งใจงดเว้นจากการประพฤติในกาม

ปกติมนุษย์รู้จักควบคุมความต้องการของตัวเอง รู้ว่าอะไรควรไม่ควร ต่างจากสัตว์ เช่น สุนัขเมื่อถึงคราวฮอร์โมนเพศทำงาน มันจะกัดแย่งตัวเมีย แต่มนุษย์ปกติจะไม่เป็นเช่นนั้น




ข้อ 4 ตั้งใจงดเว้นจากการพูดเท็จ  พูดคำหยาบ คำส่อเสียด เพ้อเจ้อ

ปกติมนุษย์จะไม่หลอกลวงกันและไม่เบียดเบียนคนอื่น ด้วยคำพูด ต่างจากสัตว์ เช่น สุนัขที่อยู่ในบ้าน พอมีสุนัขตัวอื่นหรือมีคนเดินผ่านมา มันจะเห่าทันทีเลย แต่มนุษย์เราไม่เป็นเช่นนั้น อยู่ดีๆ เราจะไม่ว่ารึว่าด่าใคร




ข้อ 5 ตั้งใจงดเว้นจากดื่มสุราเมรัย อันเป็นต้นเหตุแห่งความประมาท

ปกติสัตว์ใหญ่มีกำลังมากกว่ามนุษย์ แต่บังคับทิศทางไม่ค่อยได้ เพราะไม่มีสติควบคุม ดังนั้นสัตว์จึงไม่สามารถเปลี่ยนกำลังกายให้เกิดเป็นคุณงามความดีอะไรได้แต่ มนุษย์มีสติควบคุมการกระทำ ทำให้สามารถเปลี่ยนกำลังกายมาเป็นการกระทำความดีได้ แต่เมื่อใดที่มนุษย์ดื่มสุรา ของมึนเมา หรือยาเสพติดเข้าไป ก็จะขาดสติ ขาดความยับยั้งชั่งใจทำให้สามารถทำเรื่องเลวร้ายได้ ศีลข้อ 5_นี้ จึงเป็นข้อที่สำคัญที่สุด เพราะคนที่ขาดสติสามารถทำความชั่วได้ทุกอย่างและผิดศีลข้ออื่นได้ทุกข้อ



การรักษาศีล 5
ศีล เป็นบ่อเกิดแห่งความสงบ ความดีงาม เนื่องจากศีลเป็นคุณธรรมที่ช่วยรักษา กาย วาจาให้เป็นระเบียบเรียบร้อย

การรักษาศีล เป็นบุญกิริยาวัตถุ คือ วิธีการทำบุญอย่างหนึ่ง เพราะทุกครั้งที่เราตั้งใจงดเว้นจาก ความชั่ว ตั้งใจที่จะไม่เบียดเบียนใคร ย่อมจะเกิดกระแสแห่งความดี เกิดความเมตตาขึ้นมาในใจ ที่เราเรียกว่า กระแสบุญ อันเป็นเครื่องชำระจิตใจของเราให้สะอาดบริสุทธิ์ การรักษาศีลจึงเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิต และจิตใจให้บริสุทธิ์ดีงามยิ่งขึ้น

การรักษาศีลให้บริสุทธิ์ จะทำให้ใจสงบ ปลอดกังวล ช่วยให้สามารถบรรลุธรรมได้โดยง่าย ศีลจึงเป็นคุณธรรมที่นำไปสู่กุศลธรรมเบื้องสูงคือ สมาธิ และ ปัญญา ศีล อ่านเพิ่มเติม 

 สรุปความว่า

ถ้าเราปรารถนาที่จะดำรงค์ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้อย่างมีความสุข เราควร  มีศีล 5 เป็นปกติ และควรตั้งใจรักษาศีลให้ได้ สำคัญเราจะตั้งใจรักษาเพียงคนเดียวไม่ได้ เพราะเราดีคนเดียวโดยที่รอบข้างเราไม่มีศีลเลยไม่ได้ เราต้องชักชวนคนที่เรารักและคนที่เราปรารถนาดี เพื่อนบ้านคนในชุมชน ในหมู่บ้าน ในประเทศรวมทั้งสังคมโลกให้เห็นความสำคัญของการมีศีล 5 ว่าดีกับผู้รักษาเพียงใดและร่วมกันรักษา 

อานิสงส์ของการรักษาศีลจะทำให้มีความสุข  อยู่ดีกินดี ไร่นาพืชสวนอุดมสมบูรณ์ และจะมีแต่การเอื้ออาทรไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน ขโมยก็จะไม่มี  ปัญหาครอบครัวจะไม่เกิด จะมีคำพูดที่สร้างสรรค์แก่กัน การกระทบกระทั่งจะไม่เกิด  และข่าวเรื่องคนดื่มเหล้าเสียชีวิตที่เป็นข่าวนำมาซึ่งความสลดใจก็จะไม่เกิดขึ้น  จะทำให้มีสติสัมปชัญญะเวลามีปัญหาอะไรเราจะมีปัญญาแก้ปัญหาให้ผ่านไปด้วยดี  สุดท้ายสิ่งดีๆทั้งหลายทั้งปวงก็จะบังเกิดรวมทั้งสภาพดินฟ้าอากาศไม่แปรปรวน ฝนตกต้องตามฤดูกาล  

สถานการณ์ภัยพิบัติน้ำท่วมภาคอีสานที่พี่น้องร่วมชาติเรากำลังประสบ อยู่  เหตุเพราะคนส่วนใหญ่ไม่มีศีล 5 เป็นปกติ กระทำผิดศีลทุกข้อ  ทำให้บุญประเทศพร่องปัญหาต่างๆจึงเกิดขึ้นมากมายตามที่เราประสบกันอยู่ ณ เวลานี้  ถ้าเราร่วมใจกันสร้างบุญกุศลอันยิ่งใหญ่นี้ด้วยการ ตั้งใจรักษาศีล 5 ให้เป็นปกติทุกวัน  สถานการณ์ทุกอย่างจะกลับมาดีและดีที่สุด  



ท้ายที่สุดนี้ ทุกท่านโชคดีที่เกิดมาในประเทศที่มีพระพุทธศาสนา มีคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้เราได้ยึดเป็นแบบแผนเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตที่ดี  โปรดรักษาความโชคดีนี้ด้วยการดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท  ด้วยการวันใดถ้ายังไม่อาราธนาศีล 5 วันนั้นเราจะยังไม่ออกจากบ้าน เพื่อเราจักได้ดำเนินชีวิตที่ดีอย่างมีความสุขและปลอดภัย ในสังสารวัฏ
ดังพุทธศาสนสุภาษิตความว่า


ปณฺฑิโต  สีลสมฺปนฺโน  ชลํ  อคฺคีว ภาสติ.
บัณฑิตผู้สมบูรณ์ด้วยศีล  ย่อมรุ่งเรืองเหมือนไฟสว่าง.

ผู้ที่ตั้งตนอยู่ในศีล 5 ข้อ คือ 1.งดเว้นจากการฆ่าสัตว์ 2.งดเว้นจากการลักทรัพย์ 3.งดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม 4.งดเว้นจากการพูดเท็จ 5.งดเว้นจากการดื่มสุราและเมรัย ดังนั้น บัณฑิต ผู้ดำรงตนอยู่ในศีลดังกล่าวแล้ว ย่อมถึงความรุ่งเรือง เจริญทั้งในชีวิต และหน้าที่การงาน เป็นต้น เหมือนไฟสว่างย่อมขจัดความมืดเสียได้.

ที่มา : ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค (ที. ปาฏิ. 11/202)




กราบขอบพระคุณที่มาความสมบูรณ์ของบลอค :
ความรู้เรื่องศีล5และภาพประกอบ
บทความ : คำทำนายกว่า 2500 ปี ของพระพุทธเจ้า
บทความ : พุทธพจน์จากหนังสือเรียงความแก้กระทู้ธรรมชั้นตรี หน้า 237
นักเขียนอิสระ : คนจริงใจ ใจใสบริสุทธิ์


3 ความคิดเห็น:

  1. ถ้ามนุษย์ขาดศีล 5 มีผลร้ายแรงต่อโลกเช่นไร ? ตอบ: จะเกิดการแก่งแย่งชิงดี ฆ่าฟันล้มตายกันหมด มีแต่ภัยอันตรายทุกหย่อมหญ้า โลกจะไร้ซึ่งความสงบร่มเย็น

    ตอบลบ
  2. อ่านแล้วรู้สึกว่าดีเกิดประโยชน์ช่วยกันแชร์ไปให้โลกได้รู้ว่า ศีล 5 มีคุณต่อเราผู้รักษาต่อสังคมต่อชุมชน ประเทศ และต่อโลกอย่างไร ผู้ถือและสังคมจะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ทุกคนจะได้หันมาให้ความสำคัญของการเป็นผู้มีความเป็นมนุษย์ 100% คือมีศีล 5 เป็นปกตินะคะ สาธุค่ะ

    ตอบลบ
  3. สาธุ ขอกราบอนุโมทนาบุญ ที่นำความรู้ทางพระพุทธศาสนามาเผยแพร่ให้ได้เรียนรู้

    ตอบลบ

ประโยชน์ที่ได้รับ...จากการทำสมาธิ

    สมาธิก่อให้เกิดประโยชน์อย่างไรบ้าง บางคนหากไม่ได้สังเกตก็อาจไม่ทันรู้ตัวว่าความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับตัวเองนั้นเป็นผลมาจากสติปั...