วันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2562

บวชสร้างบารมี...ควรฝึกตัวเช่นไร ?



วันนี้ขอน้อมนำโอวาทอันทรงคุณค่าของหลวงพ่อทัตตชีโวที่เมตตามอบให้กับลูกพระลูกเณร เพื่อเป็นแนวทางในการฝึกฝนอบรมกายวาจาใจของตน เพื่อเป็นพระแท้เป็นอายุพระพุทธศาสนาที่สำคัญ มาฝากทุกท่าน ณ ที่นี้ 



เรารู้กันดีอยู่ว่า ชีวิตที่ผ่านไปแต่ละวันของพระภิกษุสามเณร อยู่ได้ด้วยข้าวปลาอาหารของญาติโยมที่ถวายมา การที่ญาติโยมทะนุบำรุงพระภิกษุนั้น เพราะเห็นประโยชน์จากพระภิกษุแน่ว่า จะได้เทศน์สอนเขา แต่การที่ญาติโยมทะนุบำรุงสามเณรตัวเล็ก ๆ นี้  ซึ่งต่อไปจะได้บวชพระหรือไม่ก็ไม่รู้ แต่เขาก็ตั้งใจทะนุบำรุงมา ด้วยหวังว่าอย่างไรเสีย ต้องมีสามเณรรอดมาบวชพระภิกษุจนได้

เราก็รู้เห็นอยู่แล้วว่า สามเณรรุ่นเดียวกับเราตอนมาบวชเป็นสามเณรมาด้วยกัน เข้ามาเป็นร้อย ๆ รูป ตอนนี้เหลือเพียงไม่กี่รูปเท่านั้น แต่ถึงกระนั้นญาติโยมก็ยังดีใจ ยังตั้งใจดูแลสามเณรอยู่ หวังว่าสักวันหนึ่งพวกท่านจะได้ไปเทศน์สอนเขา เพราะฉะนั้นสามเณรอย่าทำให้ญาติโยมผิดหวัง

อีกเรื่องหนึ่ง สามเณรอย่าทำให้พระอุปัชฌาย์ผิดหวังท่านเคี่ยวเข็ญให้เราเรียนภาษาบาลีมา หวังว่า จะให้เรารักษาพระศาสนาสืบไป ทุกฝ่ายที่ทะนุบำรุงพวกเรามาตั้งแต่เป็นสามเณรตัวน้อย ๆ ก็ตั้งเป้าไว้ทั้งนั้นว่า ท่านจะเป็นอายุพระพุทธศาสนาสืบต่อไป ในภายภาคหน้า มองประโยชน์เหล่านี้แล้วสามเณรต้องตั้งใจฝึกตัวให้ดี

 คุณสมบัติของผู้ควรแก่การบรรลุธรรม
ในฐานะที่ท่านเป็นมหาแล้ว ลองไปอ่าน “เสนาสนสูตร” หรือ“ โพธิราชกุมารสูตร " ก็ได้ ในโพธิราชกุมาร ได้พูดถึงลักษณะของผู้ที่เหมาะแก่การเรียนวิชาขี่ช้าง การบังคับช้าง  โดยบอกคุณสมบัติของคนที่จะมาเรียนไว้ 5 ข้อ ดังนี้


http://bit.ly/2Zn61KC

1. มีศรัทธาในวิชาคล้องช้าง หรือ วิชารบบนหลังช้าง
2. สุขภาพต้องดีหรือรักษาสุขภาพเป็น
3. ไม่ขี้โม้โอ้อวด
4. ปรารภความเพียร คือ  ขยันฝึกซ้อม ลุยกันสุดฤทธิ์
5. มีปัญญา
พระพุทธองค์ตรัสว่า คุณสมบัติของผู้ที่จะมาเรียนวิชาขี่ช้าง การบังคับช้างเป็นอย่างไร ในพระพุทธศาสนาก็เหมือนกัน คุณสมบัติของพระภิกษุที่เหมาะแก่การบรรลุธรรม มี 5 ข้อเช่นกัน ดังนี้



1. มีศรัทธา
2. อาพาธน้อย
3. ไม่ขี้โม้โอ้อวด
4. ปรารภความเพียร
5. มีปัญญา




พระพุทธองค์ตรัสว่า ถ้าใครมีคุณสมบัตินี้ แล้วให้พระพุทธองค์ทรงฝึก อย่างช้าที่สุด 7 ปี ก็หมดกิเลสบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์
ถ้าตั้งใจฝึกตนเองดีกว่านั้นอีก ใช้เวลาฝึก 6 ปีบ้าง 5 ปีบ้าง 4 ปีบ้าง 1 ปีบ้าง 7 เดือนบ้าง 1 เดือนบ้าง 7 วันบ้าง ก็หมดกิเลสบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์

ถ้าตั้งใจฝึกตนเองดีกว่านั้นอีก ใช้เวลาฝึก 1 คืน 1 วัน ก็หมดกิเลสบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์

ถ้าตั้งใจฝึกตนเองดีกว่านั้นอีก สอนตอนเช้าก็หมดกิเลส บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ตอนเย็น สอนตอนเย็นก็หมดกิเลส บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ตอนเช้า

ถามว่า ทำไมผู้ที่มีคุณสมบัติเช่นนี้ จึงเหมาะแก่การบรรลุธรรม 

หลวงพ่อมีข้อคิดที่อยากฝากไว้ว่า คนเราจะอยู่ทางโลกหรือทางธรรมก็ตามจะไปได้ไกลแค่ไหน แต่ละคนมีเพดานบินของเขา


1.ศรัทธา
เพดานบินของคนเราข้อแรก บินด้วยระดับศรัทธา ศรัทธาของเขามีเท่าไร ก็ไปได้ไกลเท่านั้น เพดานบินของเขาอยู่ตรงนั้น

2.อาพาธน้อย
ในคนที่มีศรัทธาเต็มที่เท่ากันแล้ว ดูต่อว่าใครที่รักษาสุขภาพตัวเองดี คนนั้นก็ไปต่อได้อีก ส่วนมากคนที่รักษาสุขภาพไม่ดีก็ไปต่อได้น้อยกว่า ไม่ว่าอยู่ทางโลกหรือทางธรรม เพดานบินอยู่ที่อาพาธ หรือ รักษาสุขภาพเป็น ใครมีความสามารถในการรักษาสุขภาพดี เขาก็บินมาได้อีกระดับหนึ่ง เพราะว่าความดีทั้งหลายต้องมีสุขภาพดีจึงไปทำได้ สุขภาพไม่ดีทำไม่ได้ จะตันอยู่แค่ตรงนั้น

ในการรักษาสุขภาพเป็น ต้องระวัง เช่น เวลาฉัน อีก 4-5 คำ จะอิ่มให้หยุดไม่อย่างนั้นแววสุขภาพไม่ดีมาแล้ว เรื่องนี้ขอเตือนหลวงพ่อเอง เมื่อก่อนก็ล่ำไม่น้อยกว่าเราหรอก คนในรุ่น ๆ เดียวกับหลวงพ่อแต่คุมตัวไม่อยู่ ตอนนี้เข้าเมรุเผาไปหลายคนแล้ว

3.ไม่ขี้โม้โอ้อวด
คนที่ดูแลสุขภาพดี ก็ต้องมาดูคุณสมบัติข้อต่อไปว่า เขาขี้โม้โอ้อวดหรือไม่
ทำไมคนเราต้องขี้โม้ ต้องโอ้อวดด้วย


ตั้งแต่เล็ก ตอนอยู่กับคุณพ่อ คุณแม่ ครูบาอาจารย์ใครที่ได้รับงานอะไรมาแล้วไม่ทำสุดฝีมือ ทำอะไรแค่พอผ่าน ทำเหยาะๆแหยะๆแสดงว่า เขายังมีเชื้อขี้โม้โอ้อวดอยู่มาก หรือพูดอีกอย่างหนึ่งคือ มีสัจจะไม่พอ เพราะฉะนั้นจึงเอาดีไม่ค่อยได้ เมื่อเอาดีไม่ค่อยได้ ก็เลยต้องเอาน้ำลายมาเติม เขาถึงต้องขี้โม้
แต่ถ้าใครก็ตาม ทำอะไรแล้วต้องสุดฝีมือ แสดงว่า คนนั้นมีสัจจะพร้อมแล้ว สัจจะของฆราวาสธรรมเริ่มต้นที่ทำอะไรสุดฝีมือ เช่น ซักผ้าสุดฝีมือ พับผ้าสุดฝีมือ นุ่งห่มสุดฝีมือ ล้างถ้วย ล้างจาน ล้างบาตรสุดฝีมือ ไม่ต้องมียั้ง ทำอะไรแล้วต้องทำให้ดีที่สุด

สัจจะ แปลว่า จริงคือ ไม่เล่น ไม่ยั้ง ไม่เหยาะแหยะ
คนที่ทำอะไรสุดฝีมือแล้ว เพดานเขาไม่มีที่สิ้นสุด คนเราอยู่ด้วยกันจะรู้ว่า ใครขี้โม้ ใครไม่ขี้โม้ โครงอแง ใครไม่งอแง ใครทำอะไรพอผ่าน ใครทำอะไรเอาจริง ลูกไปเตือนกันเองให้ดี ไม่ว่าเรื่องอะไรมาถึงตัวเราแล้วต้องจริง ถึงคราวเรียนเรียนจริง ถึงคราวนั่งสมาธินั่งจริง ถึงคราวทำงานทำจริง คนพรรค์นี้เชื้อขี้โม้โอ้อวดไม่มี

แต่ต้องระวัง บางคนเรียนจริง แต่เวลาทำงานเขากลับไม่เอาจริง
ในชีวิตหลวงพ่อเจอ พระป.ธ.9 รุ่น ๆ เดียวกันที่มาบวชด้วยกัน ประเภทที่พอถึงเวลาเรียนตั้งใจดี ทุ่มเทเรื่องเรียน แล้วได้รางวัลทุกปี เพราะทำชื่อเสียงให้กับสำนักเรียนน่าชื่นชม แต่พอถึงเวลาทำงานกลับหลบเลี่ยงไม่ทำ เอาเวลาไปท่องเที่ยวดูโน่น ๆ นี่ ๆ ความที่หลบงาน ความสามารถในการทำงานจึงหย่อน พอทำอะไรเข้าจริง ๆ ทำไม่สมภูมิกับที่เรียนมา เพราะตลอดเวลา เขามักหลบเลี่ยงการทำงาน คนพวกนี้เป็นประเภทม้าตีนต้น ทำท่าจะไปดีสุดท้ายล้มเหลวหมด



ผู้ที่เรียนทางโลก อยู่มหาวิทยาลัยก็เหมือนกัน เพื่อนๆ ของหลวงพ่อที่ได้เกียรตินิยมเรียนดี ๆ เห็นมีรอดไปคนเดียวที่ทำงานดี นอกนั้นคนที่เอาแต่ท่องหนังสือเรียนจนได้เกียรตินิยม แต่ถึงเวลาทำงานกลับหลบเลี่ยง เนื่องจากไม่มีธาตุนักสู้มาตั้งแต่ต้น ทำงานไม่ผ่าน แต่ว่าถ้าเรื่องพูด เรื่องวิจารณ์กลับเก่งมาก แต่อย่าให้ทำงาน ทำเสียหมด มีคนที่ผ่านคือ คนที่ทำงานเก่งด้วย เรียนก็เก่งด้วย ก้าวหน้าที่สุดในรุ่น

เพราะฉะนั้น พุทธองค์ทรงชี้เอาไว้ว่า คนที่มีศรัทธาระดับไหนก็ไปได้สุดกำลังของศรัทธาเขา แต่มีศรัทธาด้วย สุขภาพดีด้วย แล้วก็ทำอะไรทำจริง ไม่ขี้โม้โอ้อวด ก็มีเพดานบินไปได้อีกระดับหนึ่ง



4.ปรารภความเพียร
ในบรรดาผู้ที่ทั้งมีศรัทธา ทั้งดูแลสุขภาพตัวเองดี ทั้งเอาจริงไม่ขี้โม้ไอ้อวด แต่การปรารภความเพียร หรือการดัดสันดานตัวเองไม่ดีพอก็ไปต่อไม่ได้ ใครดัดสันดานตัวเองได้มากเท่าไร เพดานบินก็จะขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง ตรงนี้ลูกก็ไปพิจารณาเอาเอง

5.มีปัญญา
ในบรรดาผู้ที่มีความพยายามในการแก้ไขสันดานตัวเอง เท่าๆ กัน ก็ต้องดูว่า ใครที่มีความละเอียดลออเรื่องของปัญญา เพดานบินของเขาก็จะสูงขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความละเอียดลออเรื่องของปัญญาให้ครบทั้งสามข้อคือ
สุตตมยปัญญา ปัญญาที่เกิดจากการได้ฟัง ได้อ่านการทำงานร่วมกับหมู่คณะ มันเพิ่มเป็น
จินตมยปัญญา ปัญญาที่เกิดจากการพิจารณาหาเหตุผล
ภาวนามยปัญญา ปัญญาที่เกิดจากการปฏิบัติจนรู้แจ้งเห็นจริงด้วยตนเอง
ปัญญาก็ยังมีบันไดอยู่ 3 ขั้น ลูกไปดู รักษาเนื้อรักษาตัวกันให้ดี ถ้ามองสิ่งเหล่านี้ไม่ออก  ไปท่องตำราเอามาถ้าเข้าใจไม่ถึง ก็ไปไม่รอด




ถ้าขยันเรียนขยันทำงานร่วมกับหมู่คณะ ขยันพิจารณาหาเหตุผลและขยันงานด้วย ถ้าอย่างนั้นก็อยู่รอดในเพศสมณะ แต่ว่าเราจะต้องไปพัฒนาเลื่อนขั้นตรงภาวนามยปัญญา

หลวงพ่อไม่มีโอกาสได้เรียนภาษาบาลี แต่ว่าไปเคี่ยวเข็ญให้เกิดโรงเรียนบาลีขึ้นในวัดพระธรรมกาย หวังว่าทุกคนที่มาอยู่ในวัดพระธรรมกายนี้ ทำงานกันเหงื่อท่วม งานท่วม เขาคงไม่จมอยู่แค่สุตตมยปัญญา อย่างไรเขาคงจะได้จินตมยปัญญามาด้วย
แต่เอาจริง ๆ ก็มีคนที่ได้แค่สุตตมยปัญญา แต่จินตมยปัญญาเขาไม่ได้ ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรให้ เพราะว่าเขาหลบ ๆ เลี่ยง ๆ งานเอง

บางคนได้จินตมยปัญญา เพราะทุ่มเทงานมาดี แต่ภาวนามยปัญญาน้อยไปหน่อย ก็ไปช่วยเคี่ยวเข็ญกันให้ดีก็แล้วกัน



หลวงพ่อขออนุโมทนาด้วย ที่พวกเราตั้งใจบวชกัน ทำตัวให้สมกับที่ตัวเองตั้งใจมาบวช ที่พ่อแม่ญาติโยมตั้งใจสนับสนุน ตอนนี้พระพุทธศาสนากำลังมีภัย กำลังรอพวกเราเป็นกองหนุนข้างหน้า   ขอให้ตั้งใจฝึกตัวให้มีความบริสุทธิ์บริบูรณ์ในเพศสมณะยิ่ง ๆ ขึ้นไป แล้วให้ไปถึงที่สุดแห่งธรรมด้วยกันนะ  





โอวาท...หลวงพ่อทัตตชีโว
12 พฤษภาคม พ.ศ. 2562



ได้อ่านโอวาทของหลวงพ่อทัตตชีโวจนจบ ทำให้รู้สึกว่าการเกิดเป็นลูกผู้ชายมีบุญใหญ่หลวงมากมาย ทำให้เห็นถึงคุณค่าของการได้เกิดมาเป็นมนุษย์เพศบริสุทธิ์อาการครบ 32 ประการ สำคัญได้มาเจอพระพุทธศาสนาและมีศรัทธาปรารถนาจะบวช รู้สึกว่าชายแมนแมนมีบุญมากจังเลย อย่าปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์เลย ชีวิตเป็นของน้อยพรุ่งนี้หรือชาติหน้าสิ่งไหนจะมาก่อนเราไม่อาจรู้ได้ จงดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาทเถิด การบวชเข้าพรรษาเป็นมหากุศลยิ่ง ชายแมนแมนเท่านั้นถึงจะได้มหากุศลนี้

ขณะนี้วัดพระธรรมกายได้ขยายเวลารับสมัครบวช โครงการอุปสมบทรุ่นบูชาธรรมมหาปูชนียาจารย์ ถึงวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2562 นี้  

พระพุทธศาสนากำลังมีภัย วัดร้างเกิดขึ้นมากมาย ชายแมนแมนเข้ามาบวชศึกษาคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าน้อยมาก ส่วนมากมาบวชแค่ 5 วัน 10 วัน 15 วัน พอถึงเวลาก็สึกออกไป แล้วมักจะพูดว่ามาบวชแล้วไม่ได้อะไร ทำให้สังคมไทยทุกวันนี้ไม่ค่อยให้ความสำคัญของการบวชเท่าไร การบวชจึงมีให้เห็นน้อยมาก ถ้าเราชาวพุทธไม่ให้ความสำคัญของการบวชเข้าพรรษา แล้วสังคมไทยจะเป็นเช่นไร 

เรียนเชิญชายแมนแมนทุกท่านมาบวชเพื่อศึกษาฝึกฝนอบรมกายวาจาใจของเราให้ใสสะอาดบริสุทธิ์ แล้วนำความรู้ที่เราได้รับกลับไปสอนทิศทั้ง 6 ของตนและสาธุชน เพื่อให้สังคมและประเทศชาติของเราอุดมไปด้วยผู้มีศีลสมาธิและปัญญา สำคัญมาบวชเพื่อค้นหาหนทางสวรรค์หนทางพ้นทุกข์มุ่งตรงสู่ฝั่งพระนิพพานให้กับตนเองกันนะคะ


สมดังพุทธศาสนสุภาษิต ความว่า


สาธุ  โข  ปณฺฑิโต  นาม.
ชื่อว่าบัณฑิตย่อมทำประโยชน์ให้สำเร็จได้แล.

ที่มา : ขุททกนิกายชาดก เอกนิบาต (ขุ. ชา. เอก. 27/32)



กราบขอบพระคุณที่มาของความสมบูรณ์บลอค 
โอวาทหลวงพ่อทัตตชีโว จากหนังสือ"คำตอบ"คุณครูไม่ใหญ่หน้า 17-25
รูปหลวงพ่อทัตตชีโว
ภาพประกอบ : เพจการบ้านและสื่อดีเอ็มซี

5 ความคิดเห็น:

  1. การเกิดมาชาตินึงแสนยากมาก โชคดีมีบุญได้เกิดมาเป็นมนุษย์มีเพศบริสุทธิ์ครบ 32 ประการ มีบุญได้มาอยู่ในร่มเงาพระพุทธศาสนา ได้มีศรัทธาที่จะบวช ได้พบครูบาอาจารย์ที่เมตตาอบรมพร่ำสอนศิษย์ โดยไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย ทราบว่าเข้าพรรษาปีนี้ โครงการบวชพระเข้าพรรษาจะได้รับความเมตตาจากหลวงพ่อทัตตชีโว ลงให้การอบรมให้ความรู้ตลอดทั้งพรรษาเลย ลูกๆรู้สึกซาบซึ้งในพระคุณท่านมาก เรียนเชิญชายแมนๆมาบวชกันเยอะๆ เพื่อมาได้รับความรู้จากหลวงพ่อที่มีแต่ความปรารถนาดีต่อลูกศิษย์และชาวโลก ปรารถนาให้ศิษย์ดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขและเอาตัวรอดในสังสารวัฏอันยาวไกล ให้มีหิริโอตตัปปะ คือความเกรงกลัวต่อบาป รู้ว่าทำดีได้ดีทำให้ถึงคราละโลกมีสวรรค์เป็นที่ไป ทำชั่วได้ชั่วเมื่อถึงคราละโลกมีนรกเป็นที่ไป ทำให้ศิษย์ทุกคนเดินทางถูกมีความสุขสังคมและประเทศชาติสงบสุขโดยถ้วนหน้ากัน ขอกราบแทบเท้ากราบอนุโมทนาบุญต่อหลวงพ่อทัตตชีโวที่เมตตาให้โอวาทเพื่อเป็นแนวทางแก่ศิษย์และทุกท่านที่ได้เข้ามาศึกษาจากโอวาทหลวงพ่อนี้และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ดีมีสุข สาธุเจ้าค่ะ

    ตอบลบ
  2. สาธุๆ สาธุครับ
    น้อมกราบนมัสการหลวงพ่อทัตตชีโว
    (คุณครูไม่เล็ก)ด้วยความเคารพยิ่ง

    ตอบลบ
  3. อนุโมทนาบุญด้วยอย่างยิ่งกับบทความที่ให้ข้อคิดดีๆครับ!

    ตอบลบ
  4. ขอกราบแทบเท้าหลวงพ่อด้วยความเคารพยิ่งและขอกราบอนุโมทนาบุญ สาธุ

    ตอบลบ

ประโยชน์ที่ได้รับ...จากการทำสมาธิ

    สมาธิก่อให้เกิดประโยชน์อย่างไรบ้าง บางคนหากไม่ได้สังเกตก็อาจไม่ทันรู้ตัวว่าความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับตัวเองนั้นเป็นผลมาจากสติปั...