วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2562

ข้อวัตรปฏิบัติ...ของคุณยายที่เป็นแบบอย่างของนักสร้างบารมี






คุณยายท่านสอนว่า ถ้าหยาบไม่ละเอียด แล้วละเอียดจะละเอียดได้อย่างไร

ฝึกให้ดีนะ ของใครของคนนั้นในห้องนอน ในที่พักของเราไม่ให้มีฝุ่นเลย และให้มีความปลื้มปีติในการฝึก ไม่ว่าเราจะหยิบผ้าเช็ดพื้น จะปัดกวาดเช็ดถู จะทำความสะอาดอะไรก็ตาม ให้ทำด้วยใจที่ปีติ เบิกบาน



ลูกหญิงทุกคนคือสมบัติพระศาสนาและของโลก อะไรที่จะช่วยรักษาสมบัติพระศาสนา คือ ตัวเรา ให้ดีที่สุดจงทำเถิด

การรับบุญทำความสะอาดต่าง ๆ จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงเลือดลมในตัวหมุนเวียนดี วิ่งขึ้นวิ่งลงตลอด เลือดลมนักสร้างบารมีจะเคลื่อนไหว จะพลอยทำให้ร่างกายเราสดชื่น เวลานั่งธรรมะจิตใจเบิกบาน สว่างไสว



ล้างจานไป เราก็ล้างใจไปด้วย ฝึกใจไปด้วยให้ใจใส ๆ ละเอียด ๆ  





สิ่งที่จะเข้าไปในร่างกายของเรา ไม่ว่าจะเป็นอากาศ อาหาร น้ำดื่ม จะต้องสะอาด บริสุทธิ์ อากาศต้องผ่านมุ้งลวดเข้ามา  เพราะฉะนั้นมุ้งลวดก็ต้องไม่ให้มีฝุ่นเลย เราก็ต้องเช็ดให้สะอาดทุกซอกทุกมุม อากาศบริสุทธิ์จะได้ไหลผ่านเข้าไปในร่างกายเรา จะได้ไปฟอกเลือดของเราให้ใสบริสุทธิ์ ร่างกายจะได้แข็งแรง จิตใจเบิกบาน

ให้สะอาดทั้งอารมณ์ อารมณ์ดี อารมณ์สบาย
สะอาดทั้งอาวาส ที่อยู่อาศัย
สะอาดทั้งอากาศ ที่ผ่านเข้าไปในร่างกายเรา
อาภรณ์ ก็สะอาดสะอ้านผ่องผุดออกมาเลย

แล้วก็หัดเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน เวลาเปิดปิดประตูก็ต้องระมัดระวัง ต้องเบาที่สุด ไม่ให้มีเสียงเลย ในห้องของเราอนุญาตให้ยุงออกได้ แต่ไม่อนุญาตให้ยุงเข้า หัดดูแลกันเองดูแลสมบัติพระศาสนา พอถึงเวลาสี่ทุ่ม เราก็เข้านอน ไม่คุยกันต่อ ตรึกในธรรมในกลางกายของเรา




ไม่พูดเรื่องข้างนอก ไม่พูดเรื่องทางโลก พูดเรื่องโลกภายใน เพราะภายในยังมีสิ่งที่น่าศึกษาอีกมากมาย

หลวงพ่ออยากให้ลูกหญิงทุกคนได้ศึกษาวิชชาธรรมกาย อยากให้เป็นอย่างคุณยายเพราะฉะนั้นถ้าหลวงพ่อนึกถึงปฏิปทา หรือข้อวัตรปฏิบัติของคุณยาย นึกได้ก็จะค่อย ๆ นำมาเล่าให้ฟัง อยากจะถ่ายทอดเอาไว้




เวลาหลวงพ่อปฏิบัติภารกิจหลายอย่างในตัว เป็นทั้งผู้ปกครอง  เป็นทั้งผู้บริหาร อยู่ในฝ่ายระดมทุนด้วย เป็นทั้งครู เป็นทั้งนักเรียน ครูคือถ่ายทอดแบ่งปันความรู้ เป็นนักเรียนคือหลวงพ่อก็กำลังศึกษาวิชชาธรรมกายเหมือนกัน ศึกษาไปเรื่อย ๆ ทำอยู่ทุกวัน




การบริหาร บางทีก็มีเรื่องรกรุงรังอยู่ในใจ บางครั้งใจขุ่นแต่หลวงพ่อมีวิธีทำใจที่ขุ่นให้ใสได้ โดยนึกถึงข้อวัตรปฏิบัติของคุณยาย พอนึกแล้วใจสบาย เบิกบาน เพราะเรื่องราวของท่านเป็นสิ่งที่น่านึกถึง และเป็นความดีทั้งหมดเลย ซึ่งมีผลทำให้การศึกษาวิชชาธรรมกายของท่านเป็นเยี่ยม จนกระทั่งได้รับคำยกย่องจากหลวงปู่วัดปากน้ำว่า “ ลูกจันทร์นี้เป็นหนึ่งไม่มีสอง ”




หลวงพ่อกำลังจะฝึกลูกหญิงให้เป็นแบบคุณยายนะ ฝึกให้เป็นทหารหญิงกองทัพธรรมมี
ธรรมาวุธประดับใจไว้ต่อสู้กิเลสและพญามารในตัว เพราะฉะนั้นเตรียมตัวเป็นผู้ฝึกให้ดี รักษากายวาจาใจให้สะอาด บริสุทธิ์ ผ่องใส

มีสิ่งดี ๆ ที่น่าศึกษาจากคุณยายซึ่งหลวงพ่อได้เห็นมาตลอด สิ่งนี้ทำให้ความรู้สึกไม่สบายใจของหลวงพ่อหมดไป เมื่อนึกถึงข้อวัตรปฏิบัติของท่าน ใจก็สบาย ก็เลยอยากจะถ่ายทอดสิ่งนี้ให้ได้ยินได้ฟังกัน เพราะเป็นสิ่งที่ดี ไม่อยากให้สูญหาย

ถ้าอยากเป็นอย่างยาย ก็ต้องทำอย่างยาย
และเมื่อทำอย่างยายก็จะเป็นอย่างยาย

14 พฤษภาคมพ. ศ. 2541


ดังพุทธศาสนสุภาษิต ความว่า


สุทฺธสฺส  สุจิกมฺมสฺส  สทา  สมฺปชฺชเต  วตํ.
พรตของผู้บริสุทธิ์ มีการงานสะอาด ย่อมถึงพร้อมทุกเมื่อ.

ที่มา : มัชฌิมนิกาย  มัชฌิมปัณณาสก์ (ม. ม. 12/70)


กราบขอบพระคุณผู้มีส่วนทำให้บลอคสมบูรณ์ :
บทความจากหนังสือ "คำตอบ" คุณครูไม่ใหญ่(เล่ม 1 หน้า 187-190)

วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2562

ทำไมวัดนี้ชอบกำหนดต้องทำบุญเท่านั้นเท่านี้





ถาม
เวลาไปบอกบุญ ทำไมวัดนี้ชอบกำหนดว่าจะต้องทำบุญเท่านั้นเท่านี้ครับ
หลวงพ่อตอบ
การมีเป้าหมาย จะทำให้มีกำลังใจ มีแรงฮึดที่จะก้าวไปสู่ตรงนั้นได้อย่างเต็มที่ ถ้าไม่มีเป้า เราก็ทำไปตามกำลัง ไม่ได้เต็มกำลัง ก็แค่นั้นเอง
ที่ให้เขาตั้งเป้าเอาไว้ จะได้มีเป้าในใจว่า เราถึงเป้าที่เราตั้งไว้หรือยัง สมมติว่า เป้าจะเป็นประธานรอง เราทำคนเดียวไหวไหม ถ้าไม่ใหวเราก็ไปชวนเขามาทำ ทำตอนนี้ได้แค่นี้ ยังไม่พอ ก็ไปตามคนมาอีก มาเติมให้ถึงเป้า จะได้มีกำลังใจทำ ทุ่มกันอย่างเต็มกำลัง ถ้าไม่มีเป้า เราก็จะทำกันเรื่อย ๆ
และที่สำคัญ เราทำเพื่อใคร ก็เพื่อตัวเราเอง ถ้าเราเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม หว่านพืชอย่างไรได้ผลอย่างนั้น เราทำอย่างไร เราได้อย่างนั้น

การตั้งเป้าไว้สูง ๆ จะทำให้เรามีกำลังใจสูงส่ง

 คนที่มาวัดนี้เยอะทั้งเศรษฐีและไม่ใช่เศรษฐี เศรษฐีเงินล้าน พอจะชวนทำบุญ บางทีร้อย ห้าร้อย เขารู้สึกว่าเยอะแล้ว แล้วเขาก็คุ้นอยู่อย่างนั้น หลวงพ่อเลยมาปฏิวัติใหม่หมด แนะนำเขาไปว่าทีเอาเงินไปทำอย่างอื่นไม่เกิดประโยชน์ ยังไปทำตั้งเยอะ ทำทีเป็นหมื่นเป็นแสน หลายแสนมากกว่าทำบุญอีก ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำทำไมไม่ทำเป็นบุญ จะได้เป็นสมบัติติดตัวเขาไปเบื้องหน้าเยอะ ๆ
เพราะฉะนั้น ถึงต้องตั้งเป้าไว้ แล้วก็ฝึกเขาไปเรื่อย ๆ จนระทั่งเขาคุ้น เดี๋ยวนี้ใจขยายใหญ่แล้ว จากทีละร้อย เป็นที่ละหมื่นบ้าง แสนบ้าง เป็นล้าน เดี๋ยวนี้หลาย ๆ ล้านเพราะหลวงพ่อตั้งเป้าว่า “ ชาติหนึ่งเกิดมาทั้งที ต้องทำบุญให้ได้พันล้าน”  ใจจะได้ใหญ่ให้เขาแค่คิด คิดฟรี ไม่ได้เสียเงิน ยังไม่ค่อยกล้าคิดกันเลย



หลวงพ่อจะสอนให้เขากล้าคิด ใจจะได้ใหญ่แบบมหาบุรุษเหมือนใจของพระบรมโพธิสัตว์ ใจต้องใหญ่ ๆ อย่างนั้นไม่งั้นทำนิด ๆ หน่อย ๆ อย่างนี้สู้ความตระหนี่ไม่ไหวเวลาเรามาเกิดอีกที ก็เอาสมบัติมาใช้ไม่ได้ ก็ต้องอดอยากยากจน ลำบาก พอเขาใจใหญ่ทำเยอะ บุญเขาได้เยอะ เวลาผลบุญบังเกิดขึ้น เขาก็ได้มาก ยิ่งทำให้ภพชาติต่อไปสร้างบารมีสะดวกสบายหนักยิ่งขึ้นไปอีก

ดังนั้นต้องตั้งเป้าทำพันล้านให้ได้ ทำไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวนี้เขา ค่อย ๆ คุ้นกันแล้ว เพราะหลวงพ่อบอกเรื่องนี้มาตั้งหลายปีแล้ว มันต้องกล้าคิด กล้าพูดในสิ่งที่เราคิดไว้ แล้วก็กล้าทำ ตั้งเป้าสูง ๆไว้พันล้าน ไปไม่ถึงมันก็ลงมาตรงกลาง ถ้าตั้งเป้าต่ำ ๆ ถ้าไปไม่ถึงร่วงเลยนะ ตั้งเป้าไว้สูง ๆ นั้นแหละดี




ดูอย่างพระบรมโพธิสัตว์ เวลาท่านสร้างบารมีมาตั้งหลายภพหลายชาติ ท่านยกสมบัติให้หมดประเทศเลยนะ ยกให้แบบทุ่มสุดตัวเลย ที่เราทำถ้าจะเทียบกับท่าน ยังแค่กระจุ๋มกระจิ๋ม

หรืออย่างท่านโชติกเศรษฐี มีใครทำแบบท่านโชติกเศรษฐีบ้าง กล้าเอารัตนชาติมากองไว้ แล้วประกาศไปทั้งเมืองว่าใครมาฟังธรรมจากพระผู้มีพระภาคเจ้า ถ้าเป็นเศรษฐีก็หยิบไป 1 กำมือ ถ้ามีทรัพย์น้อยก็เอาไป 2 กำมือ

นั่นแสดงว่า ดวงปัญญาเขาสว่าง เขามุ่งไปเอาอริยทรัพย์ มุ่งไปเอาทรัพย์ที่ยิ่งกว่านี้เข้าไปอีก รู้จักวิธีเปลี่ยนทรัพย์หยาบให้เป็นทรัพย์ละเอียด ที่จะนำติดตัวไปได้เป็นคนใจใหญ่

ประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติภพก่อน ๆ ก็มีมาแล้ว ปัจจุบันจุดเชื่อมรอยต่อของความรู้นี้มันสูญหายไปในท่ามกลางว่า ครั้งหนึ่งในอดีตผู้มีบุญ มีปัญญาเขาสร้างบารมีแบบนั้น ที่นี้ความรู้อย่างนี้มาเชื่อมต่อได้เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาตรัสรู้ธรรมระลึกชาติหนหลังเห็นอย่างนี้ เห็นตัวท่านเองก่อนว่า ท่านก็เคยทำมาแล้ว แล้วก็เห็นคนอื่นบางคนที่เคยทำ ท่านจึงนำความรู้นี้มาเปิดเผย เป็นการเชื่อมรอยต่อของบัณฑิตนักปราชญ์ให้รู้จักวิธีสร้างทานบารมี

นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่  เป็นเรื่องเก่าที่พระพุทธเจ้าท่านทำกันมาก่อน  ท่านยกสมบัติให้กันทั้งเมืองเลย เขาให้กันขนาดนั้น ของเราแค่เงินเล็ก ๆ น้อย ๆ แค่นั้นเอง


ดังนั้น ต้องให้กำลังใจกับสาธุชนทั้งหลาย ต้องรู้จักสร้างบารมีให้เป็น ทรัพของเราแค่เป็นอุปกรณ์ในการสร้างบารมีเท่านั้น เหมือนแค่เป็นซากุไร   เป็นอุปกรณ์เอาไว้ทำงานแค่นั้นเอง เพราะฉะนั้นอย่าไปติดยึดมั่น ต้องเปลี่ยนทรัพย์หยาบให้เป็นทรัพย์ละเอียดติดไปทุกภพทุกชาติกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม วิธีเปลี่ยนก็ต้องอย่างนี้

บางคนอยากเอาทรัพย์ติดตัวไปในภพเบื้องหน้านะ แต่ดวงปัญญาไม่เท่ากัน บางคนใช้วิธีเผาเอา ไปซื้อแบงก์มาเผากันเป็นปี๊บ อยากเอารถติดไปในภพเบื้องหน้า เอารถไปเผา อยากได้บ้านก็เอาบ้านไปเผา มันก็ได้แต่ขี้เถ้า ไม่รู้จักวิธีเปลี่ยนจากของกายมนุษย์หยาบไปสู่กายมนุษย์ละเอียดไปสู่กายทิพย์ ซึ่งมันมีวิธีการ พระพุทธเจ้าท่านรู้ท่านเห็นวิธีการนี้

คือ ต้องไปทำบุญกับผู้มีศีลมีธรรม กระแสใจอันบริสุทธิ์ของท่านจะได้ประสานกับกระแสใจของเราที่พ้นจากความตระหนี่ พอดึงดูดเข้าหากันกระแสบุญก็เกิดขึ้นติดไปในภพเบื้องหน้า และไปเปลี่ยนเป็นทรัพย์ในภายหลังได้ วิธีการเปลี่ยนทรัพย์ต้องทำอย่างนี้

แล้วสิ่งที่ทำได้ยากมันแปลกนะ มันมีฤทธิ์ เมื่อทำเสร็จแล้วเกิดความปีติภาคภูมิใจ ในสิ่งที่ทำได้ยาก นึกทีไร ปลื้มทุกที   




หลวงพ่อปลื้มอยู่บุญหนึ่ง ตอนนั้นยังเป็นนักศึกษา คุณยายบอกว่า ใครซื้อตะปูสักตัวไม้สักแผ่น อิฐสักก้อน มาสร้างบ้านธรรมประสิทธิ์ให้เป็นที่ประพฤติปฏิบัติธรรมจะได้บุญอย่างมหาศาล เพราะว่าเป็นสถานที่รองรับผู้บริสุทธิ์ เป็นประดุจรัตนบัลลังก์ของพระพุทธเจ้า จะช่วยให้เราตรัสรู้ธรรมต่อไปในอนาคตได้อย่างสะดวกสบาย ง่ายดายและจะมีสมบัติติดไปในภพเบื้องหน้า ให้สร้างบารมีสะดวก



หลวงพ่อได้ยินแล้ว อยากได้บุญ อดอาหารกลางวันเป็นเดือนเลยนะ รวมเงินได้เท่าไรไม่รู้ จำไม่ได้แล้ว แต่ว่าเป็นเงินมากสำหรับหลวงพ่อในตอนนั้น แล้วนำเงินไปทำบุญนึกที่ไรปลื้มทุกทีเลยว่า เราสามารถทำได้


กับอีกบุญที่นึกแล้วปลื้ม กลับมานึกย้อนหลัง อัศจรรย์ใจเราทำได้อย่างไร ตอนนั้นจะมาเรียนธรรมะกับคุณยาย ออกจากบ้านที่เพชรบุรี ตอนตีสี่ ไม่มีเงินติดกระเป๋าเลยสักสลึง กราบลาพ่อที่หน้าประตู เพราะพ่อนอนอยู่ข้างใน หลวงพ่อนอนนอกชาน คิดในใจว่า ขอลาล่ะ จะมาเรียนธรรมะ ไม่กล้าไปลาท่าน กลัวท่านไม่ให้มา เพราะท่านไม่ชอบ เตรียมเสื้อผ้า ๒ ชุด ใส่ไว้ในกระเป๋า แล้วไม่มีความกังวลอะไรทั้งสิ้น ใจคิดอย่างเดียวว่า จะมาเรียนธรรมะกับคุณยายให้ได้ แล้วก็หอบกระเป๋ามาขึ้นรถ

นึกในใจว่า ถ้ากระเป๋ารถมาเก็บเงิน เราก็จะบอกว่า ไม่มีตังค์ แต่คราวหน้าจะเอามาใช้ให้ ถ้าไล่เราลง เราก็จะเดินไป ระยะทางร้อยกว่ากิโลเมตรจากเพชรบุรีถึงวัดปากน้ำแล้วก็ใจเบิกบานสบาย ไม่ได้กังวลอะไรเลย ก็เดินมาขึ้นรถ


แต่บุญบันดาลนะ พอขึ้นไปก็ไปเจอเพื่อนรักกัน เขาเรียนธรรมศาสตร์ ก็ไม่คิดว่าจะเดินทางเวลาเดียวกัน ไปเจอกันก็คุยกันไปเรื่อยๆ ยังไม่ได้บอกอะไร พอรถเลยตัวเมืองไปสัก 4-5 กิโลเมตร กระเป๋ารถเดินมาแล้ว หลวงพ่อกระซิบกับเพื่อน“ ไม่มีเงินหรอก” มันก็ส่งเสียงดังบอก “ ไม่เชื่อ” หลวงพ่อก็ย้ำบอกว่า "ไม่มีจริง ๆ” ถ้าเขามาเก็บ ก็จะบอกไปอย่างที่เล่าให้ฟัง มันเลยควักเงินเปิดกระเป๋ามีอยู่ 300 บาทแบ่งให้หลวงพ่อ 150 คิดดูก็แล้วกันว่า แค่ตั้งใจจะมาเรียนธรรมะได้สมบัติครึ่งหนึ่งแล้ว

แล้วเพื่อนก็ถามต่ออีก “ แล้วจะไปอยู่ที่ไหน” “ ไม่มี" “เอ้า” ไม่มีที่อยู่ งั้นไปอยู่ด้วยกันก็แล้วกัน” เห็นไหมได้เงินด้วย ได้ที่อยู่ด้วย ที่อยู่เขาเป็นตึกแถว ชั้นล่างเป็นที่เก็บกระสอบน้ำตาลแมลงสาบเต็มเลย ก็นอนกันชั้นบน ตอนเช้าเพื่อนไปธรรมศาสตร์ส่วนหลวงพ่อเข้าวัดไปเรียนธรรมะกับยาย



ไปวัดแทบไม่ได้ใช้เงินเลย เพราะว่าพอไปถึงวัด คุณยายท่านตักข้าวมาให้หนึ่งจาน ก็รับมาหนึ่งจาน คิดแค่ว่าทานให้มันหนัก ๆ ท้องไว้ แล้วก็นั่งหลับตาลุยเลย พอแขกมาหายายก็เดินหนีไปนอนที่วิหารคด นั่ง ๆ นอน ๆ ไป ดูพระบ้าง อะไรบ้าง แล้วก็ย่อง ๆ มาดูยาย พอแขกหมด เราก็ขึ้นมานั่งธรรมะต่อ

มีเสาหัวด้วนอยู่ต้นหนึ่งกลางบ้าน ยอดมันไม่ถึงเพดาน หลวงพ่อนั่งจนเสามันแผล็บเลย พอถึงเวลานั่งก็ไม่คุยเรื่องอื่นถามแต่เรื่องธรรมะ ไม่ได้ถามอะไรยายเลย แล้วยายก็ไม่ได้บอกอะไร ท่านบอก “ คุณนั่งไป ๆ เดี๋ยวก็รู้ ” ก็จริงนะ คือ บางทีก็ไม่รู้จะบอกอย่างไร มันต้องลองนั่งเสียก่อน เหมือนซื้อก๋วยเตี๋ยวมาจะบอกว่า อร่อยอย่างนั้นอย่างนี้ไม่ได้ บอกคุณลองกินดูสิ กินเข้าไปก่อน เดี๋ยวก็รู้เอง
เพราะฉะนั้น หลวงพ่อนึกถึงเรื่องนี้ทีไรปลื้มทุกทีเลยนะว่าเราทำมาได้อย่างไร ออกจากบ้าน มาเรียนธรรมะ ไม่มีเงินเลยแม้แต่สลึง คำว่า ไม่มี หมายความว่า ควักกระเป๋าออกมาไม่มีเงินเลย พร้อมกับไม่มีความกังวล แล้วก็ไม่ได้คิดเรื่องอะไร คิดแต่จะไปเรียนธรรมะอย่างเดียว รู้สึกมีความสุขดี สบาย ๆ มาเรียนด้วยความยากลำบากไม่เหมือนรุ่นหลัง ๆ เขาเรียนกันง่ายจังเลย หลวงพ่อเรียนยากต้องขวนขวายหาความรู้อยากจะรู้ให้มันหายสงสัย ไม่หายสงสัยมันทนไม่ค่อยได้

17 มีนาคมพ. ศ. 2539


ชีวิตเป็นของน้อยหายใจเข้าไม่หายใจออกก็หมดสิทธิ์ที่จะอยู่บนโลกใบนี้ จงดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท เข้าวัดบำเพ็ญบุญ ทำทาน รักษาศีล และเจริญสมาธิภาวนาให้เป็นนิจ เมื่อถึงคราละโลกจะได้มีสุคติเป็นที่ไป และสำคัญสิ่งที่จะนำติดตัวเราไปได้มีแต่บุญและบาปเท่านั้น สมดังพุทธศาสนสุภาษิต ความว่า

อปฺปมตฺโต  อุโภ  อตฺเถ  อธิคฺคณฺหาติ  ปณฺฑิโต
บัณฑิตผู้ไม่ประมาท  ย่อมได้รับประโยชน์ทั้งสอง

ที่มา : สังยุตตนิกาย สคาถวรรค (สํ. ส. 15/126)



กราบขอบพระคุณที่มาที่ทำให้บลอคสมบูรณ์ :

หนังสือคำตอบคุณครูไม่ใหญ่เล่ม 1 หน้า 172-178
ภาพประกอบ
ภาพประกอบ

 

วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2562

อานิสงส์ที่เกิดขึ้นจากการสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ที่น่าปลื้มในบุญใสใส !







บทสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตร แต่ละตัวอักษรเป็นสมบัติ ซึ่งเขาเรียกว่า“ อริยทรัพย์” คือ ทรัพย์ที่จะทำให้เป็นพระอริยเจ้า แต่ละคำกลั่นออกมาจากใจที่บริสุทธิ์หลุดพ้นจากกิเลสอาสวะซึ่งเป็นสิ่งที่หลุดพ้นได้ยากของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ฉะนั้น...เราต้องสวดให้ได้ เพราะแต่ละคำเป็นทรัพย์ทั้งสิ้น


การที่เราสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตร เหมือนเราดื่มกินถ้อยคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เราจะได้รสแห่งธรรมของพระองค์ ซึ่งต้องดื่มกินด้วยใจที่ใสสะอาดบริสุทธิ์ แล้วจะเกิดปีติสุขท่วมท้นล้นใจ บุญใหญ่จะเกิดขึ้น และมหาสมบัติคือ“ อริยทรัพย์” จะเกิดขึ้น เป็นสุดยอดยิ่งกว่า มนุษย์สมบัติ ทิพยสมบัติ ซึ่งก็คือ“ นิพพานสมบัติ”


ดังนั้น...อย่าปล่อยให้หลุดแม้สักคำ แม้ตัวอักษรเดียว เพราะกว่าจะได้คำหนึ่งต้องรอยาวนานถึง 20 อสงไขยเศษแสนมหากัป บวกไปอีก 2,500 กว่าปี เพราะแค่เห็นตัวอักษรก็เป็นบุญตา เมื่ออ่านก็เป็นบุญใจ ถ้าท่องได้ก็เป็นบุญทั้งหมดทั้งตัวและหัวใจ บุญจะท่วมท้นทุกขุมขนทุกส่วนของกายทั้งภายนอกและภายใน ทั้งกายหยาบกายทิพย์ กายรูปพรหม กายอรูปพรหม กายธรรม ปู้นเลย...



ใครสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตรได้ บุญจะท่วมใจ ลิ้น เหงือก ฟัน ปาก ชาติต่อไปจะสวย สะอาด มีกลิ่นศีลกลิ่นธรรมหอมหวนทวนลม ทั้งเนื้อทั้งตัวจะเป็นสมบัติเรียกว่า “รูปสมบัติ”
เทวดาเขาเห็นเพชรพลอยในโลกมนุษย์เขายังเฉย ๆ แต่จะเล็งแลผู้ที่สวดธัมมจัก-กัปปวัตตนสูตร เพราะแต่ละคำสว่างยิ่งกว่าถ้อยเพชรถ้อยพลอย ม้อบ ๆ แม้บ ๆ เป็นคำที่มีคุณค่าและเป็นรัตนะอันเลิศ



การสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตรนั้น จะทำให้บุญเกิดขึ้นมาก บุญไม่ใช่แค่สะกดว่า.. บอ-อุ-ยอ.. บุญนะบุญเป็นสายเลย สายบุญเกิดขึ้นภายในตัว  จะเห็นใสเป็นสายเลยและบุญนี้...จะเป็นบ่อเกิดแห่งสมบัติทั้งหลาย ทั้งมนุษย์สมบัติ  สวรรค์สมบัติ และนิพพานสมบัติ
ยิ่งมาสวดเยอะ.. ยิ่งได้บุญเยอะ และเหมือนสวดอยู่บนกองสมบัติจริง ๆ เพราะเราประกอบเหตุในการสร้างบุญ ซึ่งบุญนี้จะส่งไปในเทวโลกและในเมืองมนุษย์ เป็นบ่อเกิดแห่งโลกียทรัพย์และอริยทรัพย์ อย่างคำว่า... ให้นึกถึงบุญนั้นไม่ใช่แค่คำสวยหรูแต่เพียงแค่นึกถึงก็มาเลย บุญมาเป็นสายเลย...   



เพราะฉะนั้น... สวดไปก็ให้ทำใจสบาย ๆ ทุกจบมีความสำคัญ เดี๋ยวจะเห็นธรรมะอย่างง่าย ๆ นะ  สวดไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวจะรวยทั้งทรัพย์ภายในและทรัพย์ภายนอก
ไม่ใช่ว่าใครจะมาสวดก็ได้นะ ต้องเฉพาะ “ ผู้มีบุญ” ผู้มีบุญมีบารมีมากถึงจะมาสวดบทนี้ได้ ให้ลองคิดดูสิคน 7,000 กว่าล้านคนทั่วโลก เกิดเป็นชาวพุทธแค่กระจุกเดียวแต่มีโอกาสได้มาสวดแค่กระจิ๊ดเดียวเท่านั้น ดังนั้น...ผู้ที่มาได้ จึงเป็นผู้มีบุญมาก เป็นผู้ที่ได้กล่าวสาธยายธรรมบทแรก ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นหนึ่งในไม่กี่คนบนโลก ดังนั้น...ไปชักชวนกันมาสวดเยอะ ๆ นะ “ สำคัญมาก”!!!



ใครมาสวดจะประสบแต่ความสำเร็จทั้งทางโลกและทางธรรมเลยล่ะ ต้องกระทุ้งบ่อย ๆ ว่า“ เราเป็นหนึ่งในไม่กี่คนบนโลกนี้” จะมีอานิสงส์ คือ เสียงจะไพเราะ มีทั้งดวงปัญญา มีอุปกรณ์ในการพูดและการเปล่งเสียงที่ดี ลิ้นที่ใช้สัมผัสรสจะดี ฟันสวย
ปากสวย กลิ่นปากจะหอมฟุ้งด้วยกลิ่นศีลกลิ่นธรรม เสียงจะไพเราะ จะมีเสียงที่ก้องกังวาน ไม่แหบ ไม่เครือ ไม่พร่า หูฟังเสียงก็จะดี คือ หูจะไม่ตึง จะมีหูที่สวยงามและจะมีอุปกรณ์ฟังเสียงที่ดี จะได้ยินเสียงหยาบและละเอียด จนกระทั่งได้ยินเสียงทิพย์เลย
ไม่เพียงแค่นั้น ดวงตาก็จะเห็นแต่สิ่งดี ๆ เห็นอย่างตาทิพย์ และเห็นด้วยธรรมจักขุเลยทีเดียว มือที่พนมในการสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตร จะสวยงามและมีนิ้วสวยกว่าลำเทียน มีมือเป็นทิพย์ เพราะพนมมือผ่านดวงใจบูชาธรรมพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อจะหยิบจะจับอะไรก็เป็นสมบัติ ได้รับการเคารพนับถือ กราบไหว้บูชาทั้งหลาย ด้วยอานุภาพแห่งบุญที่มาสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตร จะมีแต่เรื่องดีๆ ทั้งนั้นแหละ
ยิ่งมาสวดเป็นทีม จะมีพรรคมีพวก เมื่อมีพรรคมีพวก ความสะดวกก็มี มีบริวารสมบัติ และพรรคพวกแต่ละคนก็จะมีศีลมีธรรม เก่งและดีทั้งนั้น ยิ่งชวนมาสวดเยอะ ๆ ก็จะมีพรรคพวกที่ดี



นอกจากนั้น... การสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตรยังเป็นการรักษาไข้ใจได้ดี  เป็นธรรมโอสถ คือ สวดมนต์เป็นยาทา ภาวนาเป็นยากิน ถ้าทั้งกินทั้งทาไม่ต้องฉีดก็หายแล้วหายหมดเลย ทั้งไข้กายและไข้ใจ



มีบางคนเจ็บป่วยนอนในโรงพยาบาลเป็นมะเร็งขั้นสุดท้าย ก็ยังมีอารมณ์เบิกบานไม่ได้สนใจเรื่องอาการเจ็บไข้ได้ป่วย และได้ใช้โรงพยาบาลเป็นสถานที่สวดธัมมจัก-กัปปวัตตนสูตร คือ นอกจากใช้เป็นสถานที่พักรักษาตัวแล้วยังใช้สวดมนต์ด้วยจิตที่รื่นเริง ซึ่งแตกต่างจากผู้ป่วยทั่ว ๆ ไป เพราะเขามีที่พึ่ง ได้สวดมนต์ระลึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำให้ใจมีปีติ แม้กายจะเจ็บป่วย แต่ใจใสและทำหนทางไปสู่สุคติให้งดงามยิ่งขึ้น ไม่ว่าเขาจะเดินทางไปตอนไหนกายหยาบก็จะไปอย่างสงบ เสงี่ยม สง่างาม โดยไม่ได้อาลัยอาวรณ์และไม่เสียอกเสียใจเลย เพราะกายหยาบที่เอาไว้ใช้อาศัยสร้างบารมีก็เป็นเพียงประดุจเรือนที่พักชั่วคราวเท่านั้น
ผู้มีบุญเท่านั้น จึงจะได้มาสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตร บุญนี้.. จะถึงแก่หมู่ญาติที่ละโลกไปแล้ว ผู้ที่มีทุกข์ก็จะพ้นทุกข์ ผู้ที่มีสุขน้อย.. ก็จะสุขมาก ผู้ที่มีสุขมาก.. ก็จะมีความสุขยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยบุญที่สวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตร




ทุกข์ในอบายมันมาก การที่จะช่วยให้ใครพ้นจากทุกข์ในอบายได้นั้นไม่ธรรมดานะ ถ้ามีบุญ.. จะสามารถฉุดขึ้นมาจากนรกได้เลยทีเดียว แม้ท่านเหล่านั้นจะหมดโอกาสในการสร้างบุญแต่ก็ยังไม่หมดโอกาสในการได้รับบุญ



วันอังคารที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2562 วันธรรมชัย วัดพระธรรมกายได้จัดให้มีพิธีสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตรฉลองชัยชิตังเมให้ได้ 1,527,082,512 จบ เพื่อน้อมถวายบูชาธรรม  หลวงพ่อธัมมชโย ผู้ชนะโดยธรรม ครบ 50 ปี ในร่มผ้ากาสาวพัตร



เรียนเชิญลูกพระธัมมฯทั่วโลกร่วมสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตร โดยพร้อมเพรียงกัน ณ อุโบสถพระไตรปิฎก วัดพระธรรมกาย ศิษย์ดีต้องมีความกตัญญู มาร่วมสั่งสมบุญสร้างบุญใหญ่สร้างผังสำเร็จ  ดังพุทธศาสนสุภาษิต ความว่า

เสฏฺฐนฺทโท  เสฏฺฐมุเปติ  ฐานํ.
ผู้ให้สิ่งประเสริฐ  ย่อมถึงฐานะที่ประเสริฐ.


ที่มา : อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต (องฺ. ปญฺจก. 22/56)


ขอขอบคุณที่มาของความสมบูรณ์ของบลอค :
บทความอานิสงส์สวดธัมมจักกฯ จากหนังสือบทสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตรหน้า 61-66
กำหนดการวันธรรมชัย

วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2562

บทสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตร...มีคุณอย่างไรทำไมต้องสวด ?




เสียงสวดมนต์ที่เกิดจากความเลื่อมใสในพระรัตนตรัยคือการสรรเสริญคุณของพระรัตนตรัย ซึ่งมีคุณอันไม่มีประมาณ จะเป็นพลังมวลแห่งความบริสุทธิ์ที่แผ่ขยายไปทุกทิศทุกทาง ไปช่วยขจัดสิ่งที่เป็นมลทินในบรรยากาศ ขจัดทุกข์ โศก โรค ภัย สิ่งที่ไม่ดี ความขัดแย้ง และการเบียดเบียนให้มลายหายสูญ จนเกิดกระแสแห่งความเมตตา ที่ทำให้สรรพสัตว์เกิดความรัก ความปรารถนาดีต่อกัน ในแต่ละวัน เราใช้เวลาสวดเพียงไม่กี่นาที โดยไม่ต้องเสียเงินเสียทองอะไรเลย
แต่อานิสงส์จากการสวดมนต์นั้นเกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ใจของผู้สวดเองก็จะผ่องใส มีจิตผูกพันกับพระรัตนตรัย ซึ่งใจที่ผ่องใสเป็นปกติเนืองนิตย์นี้เอง เวลาใกล้หลับตาลาโลก สุคติก็จะเป็นที่ไป

 ทำไม.. ต้องสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตร?

บทสวด“ ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร” เป็นบทสวดที่มีความสำคัญมากเพราะเป็นบทที่ประกาศพระสัมมาสัมโพธิญาณเป็นบทที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ที่บังเกิดขึ้นบนโลกนี้ไม่ว่าจะเป็นพระปัญญาธิกพุทธเจ้า พระสัทธาธิกพุทธเจ้า พระวิริยาธิกพุทธเจ้า จำนวนนับอสงไขยพระองค์ไม่ถ้วน เมื่อพระองค์ตรัสรู้แล้วก็ทรงแสดงธรรมบทนี้กันทั้งนั้น ดังนั้นใครก็ตามที่ได้สวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตรในยุคนี้ จึงถือเป็นบุคคลสำคัญที่ได้เคลื่อนจักรแห่งธรรมในช่วงเวลาที่ชาวพุทธกำลังสับสน เกิดความไม่สงบแห่งจิตใจเพราะเท่ากับเราได้เป็นตัวแทนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถึงแม้พระองค์จะดับขันธปรินิพพานไปแล้ว ก็ยังมีสาวกเอาธรรมบทนี้มาแสดงต่อ ซึ่งเป็นการสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาให้ยืนยาวต่อไป
ธรรมบทนี้เป็นธรรมะที่ทำให้ความเป็นพระสัมมสัมพุทธเจ้าบริบูรณ์ เพราะเมื่อพระองค์ทรงแสดงแล้ว ได้มีผู้บรรลุธรรมตามคือพระอัญญาโกณทัญญะ จึงเป็นเหตุให้เกิดองค์แห่งพระรัตนตรัยครบถ้วนบริบูรณ์ คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นครั้งแรกของโลก
ดังนั้นใครก็ตามที่ได้สวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตรเป็นนิจ จะทำให้ผู้นั้นได้บุญมาก เมื่อคิดปรารถนาอะไรก็จะสำเร็จทุกอย่าง!!!

เพราะบทสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตรนี้ ทำให้มนุษย์พ้นจากความทุกข์ทรมานของชีวิต และหลุดพ้นจากกิเลสอาสวะทั้งหลาย จนสามารถก้าวข้ามไปสู่หนทางแห่งพระนิพพาน
และที่สำคัญ ทุกครั้งที่เราสวดมนต์ บุญก็จะเกิดกับตัวเรา เพราะใจเราจะถูกกลั่นให้สะอาดบริสุทธิ์ วิบากกรรมที่ติดมาข้ามภพข้ามชาติก็จะถูกกลั่นแก้ไปด้วย จากหนักก็จะเป็นเบา จากเบาก็จะหาย จิตใจที่ขุ่นมัวก็จะใสสว่าง ดังนั้นเราต้องสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตรกันทุกวัน…

วัดพระธรรมกาย ได้จัดให้มีพิธีสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
ณ มหารัตนวิหารคด พระมหาธรรมกายเจดีย์ พระมหาเจดีย์พระพุทธเจ้าล้านพระองค์




วันอังคารที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2562 วันธรรมชัย วันที่ชนะโดยธรรมของใครคนนึง   วัดพระธรรมกาย ได้จัดให้มีสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตรให้ถึงเป้า 1,527,082,512 จบ เพื่อน้อมถวายบูชาธรรม ในวาระวันคล้ายวันเกิดทางธรรมวันที่ใครคนนึงได้บวชเข้าสู่ร่มผ้ากาสาวพัตรครบ 50 ปี ณ พระมหาธรรมกายเจดีย์ พระมหาเจดีย์พระพุทธเจ้าล้านพระองค์ ทำที่ท่านได้ที่เรา #ศิษย์ดีต้องมีความกตัญญู #ความกตัญญูเป็นเครื่องหมายของศิษย์ดี #บุญใหญ่รอทุกท่านอยู่มากันเยอะๆ #บุญใครทำใครได้ #บุญไม่มีใครทำแทนกันได้ #อยากได้ต้องทำเอง

ดังพุทธศาสนสุภาษิต ความว่า

ทนฺโต  เสฏฺโฐ  มนุสฺเสสุ.

ในหมู่มนุษย์  ผู้ฝึกตนได้แล้ว  เป็นผู้ประเสริฐสุด.


ที่มา : ขุททกนิกาย ธรรมบท(ขุ. ธ. 25/57)

กราบขอบพระคุณที่มาของความสมบูรณ์บลอค :

ภาพประกอบ @kawkar24nor


วันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2562

บวชสร้างบารมี...ควรฝึกตัวเช่นไร ?



วันนี้ขอน้อมนำโอวาทอันทรงคุณค่าของหลวงพ่อทัตตชีโวที่เมตตามอบให้กับลูกพระลูกเณร เพื่อเป็นแนวทางในการฝึกฝนอบรมกายวาจาใจของตน เพื่อเป็นพระแท้เป็นอายุพระพุทธศาสนาที่สำคัญ มาฝากทุกท่าน ณ ที่นี้ 



เรารู้กันดีอยู่ว่า ชีวิตที่ผ่านไปแต่ละวันของพระภิกษุสามเณร อยู่ได้ด้วยข้าวปลาอาหารของญาติโยมที่ถวายมา การที่ญาติโยมทะนุบำรุงพระภิกษุนั้น เพราะเห็นประโยชน์จากพระภิกษุแน่ว่า จะได้เทศน์สอนเขา แต่การที่ญาติโยมทะนุบำรุงสามเณรตัวเล็ก ๆ นี้  ซึ่งต่อไปจะได้บวชพระหรือไม่ก็ไม่รู้ แต่เขาก็ตั้งใจทะนุบำรุงมา ด้วยหวังว่าอย่างไรเสีย ต้องมีสามเณรรอดมาบวชพระภิกษุจนได้

เราก็รู้เห็นอยู่แล้วว่า สามเณรรุ่นเดียวกับเราตอนมาบวชเป็นสามเณรมาด้วยกัน เข้ามาเป็นร้อย ๆ รูป ตอนนี้เหลือเพียงไม่กี่รูปเท่านั้น แต่ถึงกระนั้นญาติโยมก็ยังดีใจ ยังตั้งใจดูแลสามเณรอยู่ หวังว่าสักวันหนึ่งพวกท่านจะได้ไปเทศน์สอนเขา เพราะฉะนั้นสามเณรอย่าทำให้ญาติโยมผิดหวัง

อีกเรื่องหนึ่ง สามเณรอย่าทำให้พระอุปัชฌาย์ผิดหวังท่านเคี่ยวเข็ญให้เราเรียนภาษาบาลีมา หวังว่า จะให้เรารักษาพระศาสนาสืบไป ทุกฝ่ายที่ทะนุบำรุงพวกเรามาตั้งแต่เป็นสามเณรตัวน้อย ๆ ก็ตั้งเป้าไว้ทั้งนั้นว่า ท่านจะเป็นอายุพระพุทธศาสนาสืบต่อไป ในภายภาคหน้า มองประโยชน์เหล่านี้แล้วสามเณรต้องตั้งใจฝึกตัวให้ดี

 คุณสมบัติของผู้ควรแก่การบรรลุธรรม
ในฐานะที่ท่านเป็นมหาแล้ว ลองไปอ่าน “เสนาสนสูตร” หรือ“ โพธิราชกุมารสูตร " ก็ได้ ในโพธิราชกุมาร ได้พูดถึงลักษณะของผู้ที่เหมาะแก่การเรียนวิชาขี่ช้าง การบังคับช้าง  โดยบอกคุณสมบัติของคนที่จะมาเรียนไว้ 5 ข้อ ดังนี้


http://bit.ly/2Zn61KC

1. มีศรัทธาในวิชาคล้องช้าง หรือ วิชารบบนหลังช้าง
2. สุขภาพต้องดีหรือรักษาสุขภาพเป็น
3. ไม่ขี้โม้โอ้อวด
4. ปรารภความเพียร คือ  ขยันฝึกซ้อม ลุยกันสุดฤทธิ์
5. มีปัญญา
พระพุทธองค์ตรัสว่า คุณสมบัติของผู้ที่จะมาเรียนวิชาขี่ช้าง การบังคับช้างเป็นอย่างไร ในพระพุทธศาสนาก็เหมือนกัน คุณสมบัติของพระภิกษุที่เหมาะแก่การบรรลุธรรม มี 5 ข้อเช่นกัน ดังนี้



1. มีศรัทธา
2. อาพาธน้อย
3. ไม่ขี้โม้โอ้อวด
4. ปรารภความเพียร
5. มีปัญญา




พระพุทธองค์ตรัสว่า ถ้าใครมีคุณสมบัตินี้ แล้วให้พระพุทธองค์ทรงฝึก อย่างช้าที่สุด 7 ปี ก็หมดกิเลสบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์
ถ้าตั้งใจฝึกตนเองดีกว่านั้นอีก ใช้เวลาฝึก 6 ปีบ้าง 5 ปีบ้าง 4 ปีบ้าง 1 ปีบ้าง 7 เดือนบ้าง 1 เดือนบ้าง 7 วันบ้าง ก็หมดกิเลสบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์

ถ้าตั้งใจฝึกตนเองดีกว่านั้นอีก ใช้เวลาฝึก 1 คืน 1 วัน ก็หมดกิเลสบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์

ถ้าตั้งใจฝึกตนเองดีกว่านั้นอีก สอนตอนเช้าก็หมดกิเลส บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ตอนเย็น สอนตอนเย็นก็หมดกิเลส บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ตอนเช้า

ถามว่า ทำไมผู้ที่มีคุณสมบัติเช่นนี้ จึงเหมาะแก่การบรรลุธรรม 

หลวงพ่อมีข้อคิดที่อยากฝากไว้ว่า คนเราจะอยู่ทางโลกหรือทางธรรมก็ตามจะไปได้ไกลแค่ไหน แต่ละคนมีเพดานบินของเขา


1.ศรัทธา
เพดานบินของคนเราข้อแรก บินด้วยระดับศรัทธา ศรัทธาของเขามีเท่าไร ก็ไปได้ไกลเท่านั้น เพดานบินของเขาอยู่ตรงนั้น

2.อาพาธน้อย
ในคนที่มีศรัทธาเต็มที่เท่ากันแล้ว ดูต่อว่าใครที่รักษาสุขภาพตัวเองดี คนนั้นก็ไปต่อได้อีก ส่วนมากคนที่รักษาสุขภาพไม่ดีก็ไปต่อได้น้อยกว่า ไม่ว่าอยู่ทางโลกหรือทางธรรม เพดานบินอยู่ที่อาพาธ หรือ รักษาสุขภาพเป็น ใครมีความสามารถในการรักษาสุขภาพดี เขาก็บินมาได้อีกระดับหนึ่ง เพราะว่าความดีทั้งหลายต้องมีสุขภาพดีจึงไปทำได้ สุขภาพไม่ดีทำไม่ได้ จะตันอยู่แค่ตรงนั้น

ในการรักษาสุขภาพเป็น ต้องระวัง เช่น เวลาฉัน อีก 4-5 คำ จะอิ่มให้หยุดไม่อย่างนั้นแววสุขภาพไม่ดีมาแล้ว เรื่องนี้ขอเตือนหลวงพ่อเอง เมื่อก่อนก็ล่ำไม่น้อยกว่าเราหรอก คนในรุ่น ๆ เดียวกับหลวงพ่อแต่คุมตัวไม่อยู่ ตอนนี้เข้าเมรุเผาไปหลายคนแล้ว

3.ไม่ขี้โม้โอ้อวด
คนที่ดูแลสุขภาพดี ก็ต้องมาดูคุณสมบัติข้อต่อไปว่า เขาขี้โม้โอ้อวดหรือไม่
ทำไมคนเราต้องขี้โม้ ต้องโอ้อวดด้วย


ตั้งแต่เล็ก ตอนอยู่กับคุณพ่อ คุณแม่ ครูบาอาจารย์ใครที่ได้รับงานอะไรมาแล้วไม่ทำสุดฝีมือ ทำอะไรแค่พอผ่าน ทำเหยาะๆแหยะๆแสดงว่า เขายังมีเชื้อขี้โม้โอ้อวดอยู่มาก หรือพูดอีกอย่างหนึ่งคือ มีสัจจะไม่พอ เพราะฉะนั้นจึงเอาดีไม่ค่อยได้ เมื่อเอาดีไม่ค่อยได้ ก็เลยต้องเอาน้ำลายมาเติม เขาถึงต้องขี้โม้
แต่ถ้าใครก็ตาม ทำอะไรแล้วต้องสุดฝีมือ แสดงว่า คนนั้นมีสัจจะพร้อมแล้ว สัจจะของฆราวาสธรรมเริ่มต้นที่ทำอะไรสุดฝีมือ เช่น ซักผ้าสุดฝีมือ พับผ้าสุดฝีมือ นุ่งห่มสุดฝีมือ ล้างถ้วย ล้างจาน ล้างบาตรสุดฝีมือ ไม่ต้องมียั้ง ทำอะไรแล้วต้องทำให้ดีที่สุด

สัจจะ แปลว่า จริงคือ ไม่เล่น ไม่ยั้ง ไม่เหยาะแหยะ
คนที่ทำอะไรสุดฝีมือแล้ว เพดานเขาไม่มีที่สิ้นสุด คนเราอยู่ด้วยกันจะรู้ว่า ใครขี้โม้ ใครไม่ขี้โม้ โครงอแง ใครไม่งอแง ใครทำอะไรพอผ่าน ใครทำอะไรเอาจริง ลูกไปเตือนกันเองให้ดี ไม่ว่าเรื่องอะไรมาถึงตัวเราแล้วต้องจริง ถึงคราวเรียนเรียนจริง ถึงคราวนั่งสมาธินั่งจริง ถึงคราวทำงานทำจริง คนพรรค์นี้เชื้อขี้โม้โอ้อวดไม่มี

แต่ต้องระวัง บางคนเรียนจริง แต่เวลาทำงานเขากลับไม่เอาจริง
ในชีวิตหลวงพ่อเจอ พระป.ธ.9 รุ่น ๆ เดียวกันที่มาบวชด้วยกัน ประเภทที่พอถึงเวลาเรียนตั้งใจดี ทุ่มเทเรื่องเรียน แล้วได้รางวัลทุกปี เพราะทำชื่อเสียงให้กับสำนักเรียนน่าชื่นชม แต่พอถึงเวลาทำงานกลับหลบเลี่ยงไม่ทำ เอาเวลาไปท่องเที่ยวดูโน่น ๆ นี่ ๆ ความที่หลบงาน ความสามารถในการทำงานจึงหย่อน พอทำอะไรเข้าจริง ๆ ทำไม่สมภูมิกับที่เรียนมา เพราะตลอดเวลา เขามักหลบเลี่ยงการทำงาน คนพวกนี้เป็นประเภทม้าตีนต้น ทำท่าจะไปดีสุดท้ายล้มเหลวหมด



ผู้ที่เรียนทางโลก อยู่มหาวิทยาลัยก็เหมือนกัน เพื่อนๆ ของหลวงพ่อที่ได้เกียรตินิยมเรียนดี ๆ เห็นมีรอดไปคนเดียวที่ทำงานดี นอกนั้นคนที่เอาแต่ท่องหนังสือเรียนจนได้เกียรตินิยม แต่ถึงเวลาทำงานกลับหลบเลี่ยง เนื่องจากไม่มีธาตุนักสู้มาตั้งแต่ต้น ทำงานไม่ผ่าน แต่ว่าถ้าเรื่องพูด เรื่องวิจารณ์กลับเก่งมาก แต่อย่าให้ทำงาน ทำเสียหมด มีคนที่ผ่านคือ คนที่ทำงานเก่งด้วย เรียนก็เก่งด้วย ก้าวหน้าที่สุดในรุ่น

เพราะฉะนั้น พุทธองค์ทรงชี้เอาไว้ว่า คนที่มีศรัทธาระดับไหนก็ไปได้สุดกำลังของศรัทธาเขา แต่มีศรัทธาด้วย สุขภาพดีด้วย แล้วก็ทำอะไรทำจริง ไม่ขี้โม้โอ้อวด ก็มีเพดานบินไปได้อีกระดับหนึ่ง



4.ปรารภความเพียร
ในบรรดาผู้ที่ทั้งมีศรัทธา ทั้งดูแลสุขภาพตัวเองดี ทั้งเอาจริงไม่ขี้โม้ไอ้อวด แต่การปรารภความเพียร หรือการดัดสันดานตัวเองไม่ดีพอก็ไปต่อไม่ได้ ใครดัดสันดานตัวเองได้มากเท่าไร เพดานบินก็จะขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง ตรงนี้ลูกก็ไปพิจารณาเอาเอง

5.มีปัญญา
ในบรรดาผู้ที่มีความพยายามในการแก้ไขสันดานตัวเอง เท่าๆ กัน ก็ต้องดูว่า ใครที่มีความละเอียดลออเรื่องของปัญญา เพดานบินของเขาก็จะสูงขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความละเอียดลออเรื่องของปัญญาให้ครบทั้งสามข้อคือ
สุตตมยปัญญา ปัญญาที่เกิดจากการได้ฟัง ได้อ่านการทำงานร่วมกับหมู่คณะ มันเพิ่มเป็น
จินตมยปัญญา ปัญญาที่เกิดจากการพิจารณาหาเหตุผล
ภาวนามยปัญญา ปัญญาที่เกิดจากการปฏิบัติจนรู้แจ้งเห็นจริงด้วยตนเอง
ปัญญาก็ยังมีบันไดอยู่ 3 ขั้น ลูกไปดู รักษาเนื้อรักษาตัวกันให้ดี ถ้ามองสิ่งเหล่านี้ไม่ออก  ไปท่องตำราเอามาถ้าเข้าใจไม่ถึง ก็ไปไม่รอด




ถ้าขยันเรียนขยันทำงานร่วมกับหมู่คณะ ขยันพิจารณาหาเหตุผลและขยันงานด้วย ถ้าอย่างนั้นก็อยู่รอดในเพศสมณะ แต่ว่าเราจะต้องไปพัฒนาเลื่อนขั้นตรงภาวนามยปัญญา

หลวงพ่อไม่มีโอกาสได้เรียนภาษาบาลี แต่ว่าไปเคี่ยวเข็ญให้เกิดโรงเรียนบาลีขึ้นในวัดพระธรรมกาย หวังว่าทุกคนที่มาอยู่ในวัดพระธรรมกายนี้ ทำงานกันเหงื่อท่วม งานท่วม เขาคงไม่จมอยู่แค่สุตตมยปัญญา อย่างไรเขาคงจะได้จินตมยปัญญามาด้วย
แต่เอาจริง ๆ ก็มีคนที่ได้แค่สุตตมยปัญญา แต่จินตมยปัญญาเขาไม่ได้ ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรให้ เพราะว่าเขาหลบ ๆ เลี่ยง ๆ งานเอง

บางคนได้จินตมยปัญญา เพราะทุ่มเทงานมาดี แต่ภาวนามยปัญญาน้อยไปหน่อย ก็ไปช่วยเคี่ยวเข็ญกันให้ดีก็แล้วกัน



หลวงพ่อขออนุโมทนาด้วย ที่พวกเราตั้งใจบวชกัน ทำตัวให้สมกับที่ตัวเองตั้งใจมาบวช ที่พ่อแม่ญาติโยมตั้งใจสนับสนุน ตอนนี้พระพุทธศาสนากำลังมีภัย กำลังรอพวกเราเป็นกองหนุนข้างหน้า   ขอให้ตั้งใจฝึกตัวให้มีความบริสุทธิ์บริบูรณ์ในเพศสมณะยิ่ง ๆ ขึ้นไป แล้วให้ไปถึงที่สุดแห่งธรรมด้วยกันนะ  





โอวาท...หลวงพ่อทัตตชีโว
12 พฤษภาคม พ.ศ. 2562



ได้อ่านโอวาทของหลวงพ่อทัตตชีโวจนจบ ทำให้รู้สึกว่าการเกิดเป็นลูกผู้ชายมีบุญใหญ่หลวงมากมาย ทำให้เห็นถึงคุณค่าของการได้เกิดมาเป็นมนุษย์เพศบริสุทธิ์อาการครบ 32 ประการ สำคัญได้มาเจอพระพุทธศาสนาและมีศรัทธาปรารถนาจะบวช รู้สึกว่าชายแมนแมนมีบุญมากจังเลย อย่าปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์เลย ชีวิตเป็นของน้อยพรุ่งนี้หรือชาติหน้าสิ่งไหนจะมาก่อนเราไม่อาจรู้ได้ จงดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาทเถิด การบวชเข้าพรรษาเป็นมหากุศลยิ่ง ชายแมนแมนเท่านั้นถึงจะได้มหากุศลนี้

ขณะนี้วัดพระธรรมกายได้ขยายเวลารับสมัครบวช โครงการอุปสมบทรุ่นบูชาธรรมมหาปูชนียาจารย์ ถึงวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2562 นี้  

พระพุทธศาสนากำลังมีภัย วัดร้างเกิดขึ้นมากมาย ชายแมนแมนเข้ามาบวชศึกษาคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าน้อยมาก ส่วนมากมาบวชแค่ 5 วัน 10 วัน 15 วัน พอถึงเวลาก็สึกออกไป แล้วมักจะพูดว่ามาบวชแล้วไม่ได้อะไร ทำให้สังคมไทยทุกวันนี้ไม่ค่อยให้ความสำคัญของการบวชเท่าไร การบวชจึงมีให้เห็นน้อยมาก ถ้าเราชาวพุทธไม่ให้ความสำคัญของการบวชเข้าพรรษา แล้วสังคมไทยจะเป็นเช่นไร 

เรียนเชิญชายแมนแมนทุกท่านมาบวชเพื่อศึกษาฝึกฝนอบรมกายวาจาใจของเราให้ใสสะอาดบริสุทธิ์ แล้วนำความรู้ที่เราได้รับกลับไปสอนทิศทั้ง 6 ของตนและสาธุชน เพื่อให้สังคมและประเทศชาติของเราอุดมไปด้วยผู้มีศีลสมาธิและปัญญา สำคัญมาบวชเพื่อค้นหาหนทางสวรรค์หนทางพ้นทุกข์มุ่งตรงสู่ฝั่งพระนิพพานให้กับตนเองกันนะคะ


สมดังพุทธศาสนสุภาษิต ความว่า


สาธุ  โข  ปณฺฑิโต  นาม.
ชื่อว่าบัณฑิตย่อมทำประโยชน์ให้สำเร็จได้แล.

ที่มา : ขุททกนิกายชาดก เอกนิบาต (ขุ. ชา. เอก. 27/32)



กราบขอบพระคุณที่มาของความสมบูรณ์บลอค 
โอวาทหลวงพ่อทัตตชีโว จากหนังสือ"คำตอบ"คุณครูไม่ใหญ่หน้า 17-25
รูปหลวงพ่อทัตตชีโว
ภาพประกอบ : เพจการบ้านและสื่อดีเอ็มซี

ประโยชน์ที่ได้รับ...จากการทำสมาธิ

    สมาธิก่อให้เกิดประโยชน์อย่างไรบ้าง บางคนหากไม่ได้สังเกตก็อาจไม่ทันรู้ตัวว่าความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับตัวเองนั้นเป็นผลมาจากสติปั...