วันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2561

วันออกพรรษาหรือวันมหาปวารณา




Cr.www.dmc.tv


ประวัติความเป็นมาของการทำปวารณาในวันออกพรรษา เกิดขึ้นจากครั้งเมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทับจำพรรษาอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร กรุงสาวัตถี มีพระภิกษุกลุ่มหนึ่งแยกย้ายกันจำพรรษาอยู่ อารามรอบๆพระนคร พระภิกษุเหล่านั้นเกรงจะเกิดความขัด แย้งกัน จนอยู่ไม่เป็นสุขตลอดพรรษาจึงได้ตั้งกติกากันว่า จะประพฤติมูขวัตร คือการนิ่งไม่พูดจากันตลอด 3 เดือน และได้ถือปฏิบัติกันมาตลอดพรรษา

เมื่อถึงวันออกพรรษาพระภิกษุเหล่านั้นก็ได้พากันเข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่พระเชตะวันมหาวิหาร แล้วกราบทูลเรื่องทั้งหมดให้พระพุทธองค์ทรงทราบ


พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตำหนิ และทรงมีพระบรมพุทธานุญาตให้พระภิกษุกระทำการปวารณาต่อกันว่าภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ภิกษุทั้งหลายผู้จำพรรษาแล้ว ปวารณากันใน  ลักษณะ คือ ด้วยการเห็นก็ดี ด้วยการได้ยินก็ดีด้วยการสงสัยก็ดี

Cr.www.dmc.tv


ดังนั้นในวันออกพรรษา จึงเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า วันมหาปวารณา ซึ่งเป็นวันเดียวกันตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 ของทุกปีแต่ถือกันคนละความหมายคือ วันออกพรรษา คือวันที่สิ้นสุดของการอยู่จำพรรษา หรือพูดง่ายๆว่า วันสุดท้ายที่ต้องอยู่จำพรรษาในแต่ละปีและพระสงฆ์จะต้อง อยู่ให้ครบอีก 1 ราตรี จึงจะครบถ้วนบริบูรณ์

ส่วนวันมหาปวารณาคือการทำปวารณาครั้งใหญ่ หมายถึงวันที่พระภิกษุสงฆ์ทุกรูปทั้งพระผู้ใหญ่และพระผู้น้อย ต่างเปิดโอกาสอนุญาตแก่กันและกันให้ว่ากล่าวตักเตือนกันได้ด้วยจิตที่เมตตา

cr.www.dmc.tv

โดยมีคำกล่าว “ปวารณา” เป็นภาษาบาลีว่า

สังฆัมภันเต ปะวาเรมิ ทิฏเฐนะ วา สุเตนะ วา ปะริสังกายะ วา วะทันตุ มัง อายัส๎มันโต อะนุกัมปัง อุปาทายะ ปัสสันโต ปะฏิกกะริสสามิฯ 


 ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญกระผมขอปวารณาต่อสงฆ์ หากท่านทั้งหลายได้เห็น ได้ยินหรือสงสัยว่า ผม ได้ทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ขอท่านทั้งหลาย โปรดอนุเคราะห์ว่ากล่าวตักเตือน
กระผมด้วย เมื่อกระผมมองเห็นแล้วจะประพฤติตัวเสียใหม่ให้ดี


ที่มา : ปกิณณวินัย

การอยู่จำพรรษารวมกันตลอดระยะเวลา 3 เดือน อาจมีข้อประพฤติปฏิบัติที่ไม่ดีไม่งามเกิดขึ้น โดยรู้เท่าไม่ถึงการหรือมองไม่เห็นเสมือนผงเข้าตาตนเอง แม้ผงจะอยู่ชิดติดกับลูกในตาเราก็ไม่สามารถมองเห็นผงนั้นได้

จึงจำเป็นต้องไหว้วานขอร้องผู้อื่นให้มาช่วยดู หรือต้องใช้กระจกส่องดู เพราะฉะนั้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงทรงใช้วิธีการปวารณา ให้ว่ากล่าวตักเตือนซึ่งกันและกันได้ เพื่อพระภิกษุที่ได้เห็นหรือแม้แต่ได้ยินได้ฟังเรื่องไม่ดีไม่งามอะไรก็ตาม ให้กล่าวแนะนำตักเตือนได้ คือ พระผู้มีพรรษามากก็กล่าวตักเตือนพระผู้มีพรรษาน้อยได้ และพระผู้พรรษาน้อยก็สามารถกล่าวชี้แนะถึงข้อบกพร่องของพระผู้มีพรรษามากได้เช่นกัน โดยที่พระผู้มีพรรษามาก ท่านก็มิได้สำคัญตนผิดคิดว่าท่านทำอะไรแล้วถูกไปหมด ทุกอย่างการกล่าวปวารณาเท่ากับเป็นการช่วยระมัดระวังข้อประพฤติปฏิบัติที่ไม่ดีของพระรูปหนึ่งก่อนที่จะลุกลามก่อความเสื่อมเสียไปถึงพระหมู่มากและลุกลามไปถึงพระพุทธศาสนาได้ ท่านจึงใช้วิธีป้องกันไว้ก่อนดี กว่าการแก้ไขในภายหลังการปวารณาที่พระภิกษุทั้งหลาย

จุดมุ่งหมายของการปวารณาคือ

1.เป็นกรรมวิธีลดหย่อนผ่อนคลายข้อขุ่นข้องคลางแคลง ที่เกิดจากความระแวงสงสัยให้หมดไปในที่สุด
2.เป็นทางประสานรอยร้าวที่เกิดจากผลกระทบกระทั่งในการอยู่ร่วมกัน
ให้มีโอกาสกลับคืนดีด้วยการให้โอกาสได้ปรับความเข้าใจซึ่งกันและกัน
3.เป็นทางสร้างเสริมความสามัคคีในหมู่ให้กลมเกลียว อยู่ร่วมกันอย่างสนิทใจ
4.เป็นแนวปฏิบัติให้เกิดความเสมอภาคกันในการแสดงความคิด สามารถว่ากล่าวตักเตือนได้โดยไม่จำกัดด้วยยศ ชั้นพรรษาและวัย
5.ก่อให้เกิดภราดรภาพคือความรู้สึกเป็นมิตรชิดเชื้อปรารถนาดี เอื้อเฟื้ออาทรเป็นพื้นฐานนำไปสู่พฤติกรรมอันพึงประสงค์ที่ดีงามคล้ายๆกัน เรียกว่าศีลสามัญญตา

อานิสงส์ของการปวารณา ได้แก่

1.ทำให้เกิดความบริสุทธิ์ในเพศบรรพชิต ทั้งทางกาย วาจาและใจ เป็นการคลายความสงสัยระแวงให้หมดไปในที่สุด
2.พระภิกษุทุกรูปจะรู้ข้อบกพร่องของตนเองและจะได้ปรับปรุงตนเองให้ดีขึ้น โดยฝึกความอดทนต่อการว่ากล่าวตักเตือนได้เป็นการเปิดใจยอมรับฟังผู้ชี้ขุมทรัพย์ให้
3.พระภิกษุทุกรูปจะได้ขอคมากันและกัน เพื่อที่จะไม่ถือโทษโกรธเคืองกันในภายหลัง ด้วยความรักและปรารถนาดีและให้อภัยซึ่งกันและกัน จะทำให้อยู่ร่วมกันในหมู่คณะอย่างผาสุก
4.เป็นการสร้างความสมัครสมานสามัคคีในสังฆมณฑลให้เป็นหนึ่งเดียวกัน โดยการส่งเสริมและสนับสนุนในการทำงานพระพุทธศาสนาเป็นทีม
5.ทำให้คณะสงฆ์มีความเป็นปึกแผ่นแน่นเหนียวยากแก่การถูกทำลายจากผู้ไม่หวังดีต่อพระพุทธศาสนา

การปวารณาจึงเป็นการกระทำเพื่อหวังความเจริญ เพื่อเกิดประโยชน์ทั้งต่อส่วนตัวและส่วนรวมโดยเพื่อนสหธรรมิกด้วยกันเอง ตักเตือนกันเองได้ โดยธรรม






อีก 9 วันก็ถึงวันมหาปวารณาออกพรรษา วันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำเดือน 11
ปีนี้ตรงกับวันพุธที่ 24 ตุลาคม พุทธศักราช 2561 พวกเราเหล่าพุทธบริษัท 4 จะได้ถือโอกาสนี้ปฏิบัติตามธรรมเนียมอันดีงามนี้ โดยการปวารณากับบุคคลข้างเคียงให้สามารถว่ากล่าวตักเตือนได้ เพื่อความบริสุทธิ์บริบูรณ์ในการสร้างบารมี ต่อไปในภายภาคหน้า  






บทสวดธัมมจักกัปปวัตนสูตร, 3 จบ ไม่มีบทขัด, ภาพพระมหาธรรมกายเจดีย์
cr.www.dmc.tv


 วันมหาปวารณาออกพรรษา

เรียนเชิญผู้มีบุญทุกท่านร่วมสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตร
ให้ได้788,888,888 จบ เพื่อน้อมถวายเป็นพุทธบูชา
ณ วัดพระธรรมกาย เพื่อยังความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและคนที่เรารัก
รักและปรารถนาดีใครชวนกันมา 
พระพุทธศาสนาเข้มแข็ง เจริญรุ่งเรือง เป็นทั้งที่พึ่ง
ที่ระลึกแก่มวลมนุษย์ชาติตราบนาน เท่านาน
ขอกราบอนุโมทนาบุญ สาธุ



ประโยชน์ที่ได้รับ...จากการทำสมาธิ

    สมาธิก่อให้เกิดประโยชน์อย่างไรบ้าง บางคนหากไม่ได้สังเกตก็อาจไม่ทันรู้ตัวว่าความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับตัวเองนั้นเป็นผลมาจากสติปั...